เจาะลึกไวยากรณ์ HSK 1

by admin

 

 

 

ก้าวแรกสู่โลกภาษาจีนกับไวยากรณ์ HSK 1

สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของภาษาจีนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และโอกาสมากมายนะคะ ในฐานะเหล่าซือ เข้าใจดีว่าการเริ่มต้นเรียนภาษาใหม่อาจทำให้หลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง “ไวยากรณ์” แต่เหล่าซือขอรับรองเลยว่า ไวยากรณ์ภาษาจีนในระดับเริ่มต้นนั้นมีโครงสร้างที่เป็นระบบและเรียนรู้ได้ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ

หัวใจสำคัญที่อยากให้นักเรียนทุกคนเข้าใจตั้งแต่ตอนนี้คือ ไวยากรณ์จีนเน้นที่ “ลำดับคำ” และ “คำช่วย” ไม่ใช่การผันรูปคำที่ซับซ้อน ภาษาจีนไม่มีการเปลี่ยนรูปกริยาตามประธานหรือตามกาลเวลาเหมือนในภาษาอังกฤษ (เช่น go, goes, went, gone) ซึ่งถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับผู้เรียน! หน้าที่ของเราคือการเรียนรู้ “สูตร” การวางคำในตำแหน่งที่ถูกต้อง เมื่อเข้าใจตรรกะของมันแล้ว เราจะสามารถสร้างประโยคได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่จะพานักเรียนทุกคนไปเจาะลึกทุกแง่มุมของไวยากรณ์ HSK 1 อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างและคำอธิบายที่เข้าใจง่ายสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเรามาเริ่มวางรากฐานภาษาจีนให้แข็งแกร่งไปด้วยกันเลยนะคะ!

 

หัวใจของภาษาจีน – เข้าใจโครงสร้างประโยคพื้นฐาน

การจะสร้างประโยคภาษาจีนที่ถูกต้องได้นั้น เราต้องเริ่มต้นจากโครงสร้างที่สำคัญที่สุดเสียก่อน ซึ่งนับเป็นข่าวดีเพราะโครงสร้างพื้นฐานของภาษาจีนนั้นตรงไปตรงมาและมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนมากค่ะ

กฎทองของประโยค: ประธาน + กริยา + กรรม (Subject + Verb + Object)

โครงสร้างที่สำคัญที่สุดและเป็นรากฐานของประโยคส่วนใหญ่ในภาษาจีนคือ ประธาน + กริยา + กรรม หรือที่เรียกกันว่า SVO (Subject-Verb-Object) ลำดับนี้เป็นกฎเหล็กที่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าประโยคจะสั้นหรือยาว จะเป็นประโยคบอกเล่าหรือคำถามก็ตาม การยึดลำดับนี้ให้มั่นจะช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ

โครงสร้าง: ประธาน (ผู้กระทำ) + กริยา (การกระทำ) + กรรม (ผู้ถูกกระทำ)

ลองดูตัวอย่างง่ายๆ ที่ใช้คำศัพท์ในระดับ HSK 1 กันค่ะ

ตัวอย่าง 1: 我爱你 (wǒ ài nǐ)

  • ประธาน: (wǒ) – ฉัน
  • กริยา: (ài) – รัก
  • กรรม: (nǐ) – เธอ
  • แปลว่า: ฉันรักเธอ

ตัวอย่าง 2: 他吃苹果 (tā chī píngguǒ)

  • ประธาน: (tā) – เขา
  • กริยา: (chī) – กิน
  • กรรม: 苹果 (píngguǒ) – แอปเปิ้ล
  • แปลว่า: เขากินแอปเปิ้ล

ตัวอย่าง 3: 她学习汉语 (tā xuéxí Hànyǔ)

  • ประธาน: (tā) – หล่อน
  • กริยา: 学习 (xuéxí) – เรียน
  • กรรม: 汉语 (Hànyǔ) – ภาษาจีน
  • แปลว่า: หล่อนเรียนภาษาจีน

จะเห็นได้ว่าลำดับคำนั้นตรงไปตรงมา แค่เราจำคำศัพท์และนำมาวางตามสูตรนี้ ก็สามารถสร้างประโยคพื้นฐานได้แล้วค่ะ

 

การอธิบายคุณลักษณะ ประโยคคุณศัพท์ และการใช้ (hěn)

เมื่อเราต้องการจะอธิบายลักษณะของคน สัตว์ หรือสิ่งของ เช่น “ฉันสบายดี” “เขาตัวสูง” หรือ “อากาศร้อนมาก” ในภาษาจีนมีโครงสร้างพิเศษที่แตกต่างจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษเล็กน้อย

ในภาษาจีน เราสามารถใช้คำคุณศัพท์ (Adjective) ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงของประโยคได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องมีคำกริยา “เป็น, อยู่, คือ” (Verb to be) มาเชื่อม แต่มีข้อแม้ที่สำคัญมากคือ ประโยคบอกเล่าที่ใช้คำคุณศัพท์เป็นภาคแสดง จะต้องมีคำวิเศษณ์บอกระดับวางอยู่หน้าคำคุณศัพท์เสมอ และคำที่พบบ่อยที่สุดในระดับ HSK 1 ก็คือ (hěn)

หลายคนอาจจะเคยเรียนมาว่า (hěn) แปลว่า “มาก” แต่ในโครงสร้างประโยคแบบนี้ (hěn) มักจะทำหน้าที่เหมือน “กาว” ที่เชื่อมประธานเข้ากับคำคุณศัพท์ เพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์และฟังดูเป็นธรรมชาติเท่านั้น โดยที่ความหมาย “มาก” อาจจะจางลงไปหรือไม่ปรากฏเลยก็ได้ หากเราพูดว่า 我好 (wǒ hǎo) โดยไม่มี (hěn) ประโยคจะฟังดูไม่สมบูรณ์และผิดไวยากรณ์ในเชิงเปรียบเทียบค่ะ

โครงสร้าง: ประธาน + (hěn) + คำคุณศัพท์

  • ตัวอย่าง 1:
    我很好
    (wǒ hěn hǎo)
    แปลตรงตัว: ฉันดีมาก
    ความหมายจริง: ฉันสบายดี (เป็นประโยคทักทายตอบรับมาตรฐาน)
  • ตัวอย่าง 2:
    他很高
    (tā hěn gāo)
    เขาสูง (ไม่ได้แปลว่าเขาสูงมากเสมอไป แค่เป็นการบรรยายลักษณะ)
  • ตัวอย่าง 3:
    今天很热
    (jīntiān hěn rè)
    วันนี้อากาศร้อน

ดังนั้น ให้จำไว้เสมอว่าเมื่อต้องการจะบรรยายลักษณะของประธานด้วยคำคุณศัพท์ในประโยคบอกเล่าพื้นฐาน อย่าลืมเติม (hěn) เข้าไปข้างหน้าด้วยนะคะ

 

สามทหารเสือ – พิชิตการใช้ (shì), (yǒu), และ (zài)

ในบรรดาคำกริยาทั้งหมดของภาษาจีน มี 3 คำที่ผู้เรียนชาวไทยมักจะสับสนและใช้ผิดบ่อยที่สุดในระยะเริ่มต้น นั่นก็คือ (shì), (yǒu), และ (zài) แม้ทั้งสามคำนี้จะดูคล้ายกับ “is, am, are, have, at” ในภาษาอังกฤษ แต่การใช้งานในภาษาจีนนั้นมีขอบเขตที่ชัดเจนและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การทำความเข้าใจ “สามทหารเสือ” นี้ให้ถ่องแท้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกการสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้นค่ะ

 

การระบุตัวตน A คือ B ด้วย (shì)

คำว่า (shì) ทำหน้าที่หลักเพียงอย่างเดียวคือ การระบุตัวตนหรือนิยาม โดยใช้เชื่อมคำนาม (หรือวลีที่เป็นคำนาม) สองคำเข้าด้วยกันเพื่อบอกว่าสิ่งแรก “เป็น” หรือ “คือ” สิ่งที่สอง

โครงสร้าง: คำนาม A + (shì) + คำนาม B

ข้อควรจำ: (shì) จะไม่ใช้นำหน้าคำคุณศัพท์เด็ดขาด (เราจะไม่พูดว่า 我是好 wǒ shì hǎo) และจะไม่ใช้บอกตำแหน่ง (เราจะไม่พูดว่า 我是家 wǒ shì jiā)

  • ตัวอย่าง 1:
    我是学生
    (wǒ shì xuésheng)
    ฉันเป็นนักเรียน
  • ตัวอย่าง 2:
    他是老师
    (tā shì lǎoshī)
    เขาเป็นคุณครู
  • ตัวอย่าง 3:
    这是我的书
    (zhè shì wǒ de shū)
    นี่คือหนังสือของฉัน

 

การแสดงความเป็นเจ้าของและการมีอยู่ “มี” ด้วย (yǒu)

คำว่า (yǒu) มีหน้าที่หลัก 2 อย่างที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่าประธานของประโยคคืออะไร

1. การแสดงความเป็นเจ้าของ (Possession): เมื่อประธานเป็นคนหรือสิ่งมีชีวิต จะหมายถึง “มี” ในลักษณะของการครอบครอง

โครงสร้าง: ประธาน (คน/สัตว์) + (yǒu) + กรรม (สิ่งที่ถูกครอบครอง)

  • ตัวอย่าง 1:
    我有钱
    (wǒ yǒu qián)
    ฉันมีเงิน
  • ตัวอย่าง 2:
    我有一只猫
    (wǒ yǒu yì zhī māo)
    ฉันมีแมวหนึ่งตัว

2. การบอกว่ามีบางสิ่งอยู่ (Existence): เมื่อประธานเป็นสถานที่ จะหมายถึง “มี…” อยู่ในสถานที่นั้นๆ

โครงสร้าง: สถานที่ + (yǒu) + กรรม (สิ่งที่มีอยู่)

  • ตัวอย่าง 1:
    我们学校有很多学生
    (wǒmen xuéxiào yǒu hěn duō xuésheng)
    ที่โรงเรียนของพวกเรามีนักเรียนมากมาย
  • ตัวอย่าง 2:
    这儿有很多中文书
    (zhèr yǒu hěn duō Zhōngwén shū)
    ที่นี่มีหนังสือภาษาจีนเยอะมาก

 

การบอกตำแหน่ง: “อยู่ที่” ด้วย (zài)

คำว่า (zài) คือคำกริยาที่ใช้สำหรับ การบอกตำแหน่ง โดยเฉพาะ มีหน้าที่ 2 อย่างเช่นกัน

1. บอกว่าใครหรืออะไรอยู่ที่ไหน (to be at/in/on):

โครงสร้าง: ประธาน (คน/สิ่งของ) + (zài) + สถานที่

  • ตัวอย่าง 1:
    老师在上海
    (lǎoshī zài Shànghǎi)
    คุณครูอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
  • ตัวอย่าง 2:
    你的钱包在我这儿
    (nǐ de qiánbāo zài wǒ zhèr)
    กระเป๋าเงินของคุณอยู่ที่ฉันนี่

2. บอกว่าการกระทำเกิดขึ้นที่ไหน:

โครงสร้าง: ประธาน + (zài) + สถานที่ + กริยา

  • ตัวอย่าง 1:
    我在上海工作
    (wǒ zài Shànghǎi gōngzuò)
    ฉันทำงานที่เซี่ยงไฮ้
  • ตัวอย่าง 2:
    我在家看电视
    (wǒ zài jiā kàn diànshì)
    ฉันดูทีวีอยู่ที่บ้าน

 

จาะลึก! การต่อสู้ของ vs vs เมื่อบอกตำแหน่ง

จุดที่สร้างความสับสนได้มากที่สุดคือเมื่อเราต้องการจะอธิบายว่า “มีอะไรอยู่ที่ไหน” ซึ่งบางครั้งสามารถใช้ได้ทั้ง (shì) และ (yǒu) แต่ให้ความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ทำให้ภาษาของเราดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

  • ใช้ (yǒu): เมื่อต้องการจะบอกว่า ณ สถานที่นั้น มี สิ่งของบางอย่างอยู่ โดยที่สิ่งนั้นเป็นกรรม ที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง และอาจจะมีสิ่งอื่นๆ อยู่ด้วยก็ได้
    • ตัวอย่าง:
      我家对面有一家咖啡店
      (Wǒjiā duìmiàn yǒu yì jiā kāfēidiàn)
      ตรงข้ามบ้านฉันมีร้านกาแฟร้านหนึ่ง (เป็นการบอกว่ามีร้านกาแฟอยู่ และอาจจะมีร้านค้าอื่นๆ หรือสิ่งอื่นๆ อยู่ตรงข้ามบ้านด้วย)
  • ใช้ (shì): เมื่อต้องการจะบอกว่า ณ สถานที่นั้น คือ อะไร เป็นการระบุอย่างชัดเจนว่าสถานที่นั้นถูกครอบครองโดยสิ่งนั้นๆ และมักจะไม่มีสิ่งอื่นอยู่ด้วย
    • ตัวอย่าง:
      我家对面是一家咖啡店
      (Wǒjiā duìmiàn shì yì jiā kāfēidiàn)
      ตรงข้ามบ้านฉันคือร้านกาแฟ (เป็นการเน้นว่าตรงข้ามบ้านฉันมีแต่ร้านกาแฟเพียงอย่างเดียว)

เพื่อความชัดเจน ลองดูตารางสรุปการใช้งานของทั้งสามคำนี้อีกครั้งค่ะ

เมื่อต้องการจะบอกว่า…ใช้คำไหน?โครงสร้างประโยคตัวอย่าง
ใคร/อะไร เป็น อะไร (ระบุตัวตน)A B我是泰国人 (wǒ shì Tàiguó rén)
ใคร/อะไร มี อะไร (แสดงความเป็นเจ้าของ)Subj + + Obj我有哥哥 (wǒ yǒu gēge)
มี อะไร อยู่ที่ไหน (บอกการดำรงอยู่)Place + + Obj桌子上有一本书 (zhuōzi shàng yǒu yì běn shū)
ใคร/อะไร อยู่ ที่ไหน (บอกตำแหน่ง)Subj + + Place我妈妈在家 (wǒ māma zài jiā)
ทำอะไร ที่ ไหน (บอกสถานที่ของกริยา)Subj + + Place + Verb我在中国学习 (wǒ zài Zhōngguó xuéxí)

 

ศิลปะแห่งการปฏิเสธ –  (bù) และ (méi)

ในภาษาจีน คำว่า “ไม่” มีสองรูปแบบหลักที่ใช้ในบริบทแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ (bù) และ (méi) การเลือกใช้คำปฏิเสธที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันสามารถเปลี่ยนความหมายของประโยคจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว มาทำความเข้าใจคู่หูคู่นี้ให้กระจ่างกันค่ะ

การใช้ (bù): ปฏิเสธปัจจุบัน อนาคต นิสัย และความคิดเห็น

(bù) เป็นคำปฏิเสธที่ใช้บ่อยที่สุด ใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย โดยหลักๆ แล้วจะใช้เพื่อปฏิเสธสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงในปัจจุบัน, การกระทำในอนาคต, นิสัยส่วนตัว, ความคิดเห็น หรือความสามารถ

1. ปฏิเสธเหตุการณ์ในปัจจุบันและอนาคต: บอกว่าจะ “ไม่ทำ” หรือสิ่งนั้น “ไม่เป็น” เช่นนั้น

โครงสร้าง: ประธาน + (bù) + กริยา/คุณศัพท์

  • ตัวอย่าง 1 (ปัจจุบัน):
    我今天晚上不喝酒
    (Wǒ jīntiān wǎnshang bù hējiǔ)
    คืนนี้ฉันไม่ดื่มเหล้า
  • ตัวอย่าง 2 (อนาคต):
    明天我不去学校
    (Míngtiān wǒ bù qù xuéxiào)
    พรุ่งนี้ฉันไม่ไปโรงเรียน

2. ปฏิเสธนิสัยหรือความชอบส่วนตัว: บอกว่าโดยปกติแล้ว “ไม่ทำ” สิ่งนั้นเป็นนิสัย

  • ตัวอย่าง 1:
    我不吃牛肉
    (Wǒ bù chī niúròu)
    ฉันไม่กินเนื้อวัว (เป็นนิสัย ไม่ใช่แค่ตอนนี้)
  • ตัวอย่าง 2:
    我不喝咖啡
    (Wǒ bù hē kāfēi)
    ฉันไม่ดื่มกาแฟ (เป็นความชอบส่วนตัว)

3. ปฏิเสธคำคุณศัพท์: บอกว่าสิ่งนั้น “ไม่…” (ไม่สวย, ไม่แพง, ไม่ดี)

  • ตัวอย่าง 1:
    中文不难
    (Zhōngwén bù nán)
    ภาษาจีนไม่ยาก
  • ตัวอย่าง 2:
    这个不贵
    (Zhège bù guì)
    อันนี้ไม่แพง

 

การใช้ (méi) ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และการ “ไม่มี”

(méi) มีขอบเขตการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงกว่า (bù) โดยจะใช้ใน 2 กรณีหลักเท่านั้น คือการปฏิเสธการกระทำในอดีต และการปฏิเสธการมีอยู่

1. ปฏิเสธเหตุการณ์ในอดีต: แปลว่า “ไม่ได้…”

โครงสร้าง: ประธาน + () (méi(yǒu)) + กริยา

  • ตัวอย่าง 1:
    昨天我没见到他
    (Zuótiān wǒ méi jiàndào tā)
    เมื่อวานฉันไม่ได้เจอเขา
  • ตัวอย่าง 2:
    他没来
    (Tā méi lái)
    เขาไม่ได้มา

2. ปฏิเสธการมีอยู่: แปลว่า “ไม่มี” จะใช้ในรูป 没有 (méiyǒu) หรือ (méi) ก็ได้

โครงสร้าง: ประธาน + () (méi(yǒu)) + คำนาม

  • ตัวอย่าง 1:
    我没有钱
    (Wǒ méiyǒu qián)
    ฉันไม่มีเงิน
  • ตัวอย่าง 2:
    他没有女朋友
    (Tā méiyǒu nǚpéngyou)
    เขาไม่มีแฟน

 

  (bù) ปะทะ (méi)

กฎง่ายๆ ที่หลายคนใช้จำคือ “ (bù) ใช้กับปัจจุบัน/อนาคต, (méi) ใช้กับอดีต” ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกต้อง แต่มี ข้อยกเว้นที่สำคัญที่สุด ที่ผู้เรียนต้องรู้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด นั่นคือกริยาบางตัวจะใช้คู่กับ (bù) เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในกาลเวลาใดก็ตาม!

กริยาพิเศษเหล่านี้ได้แก่ (shì), (zài), (huì), (néng), 认识 (rènshi) และอื่นๆ ที่แสดงสภาวะหรือความสามารถ กริยาเหล่านี้เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของ (bù) และจะไม่แยกจากกัน

ตัวอย่างข้อยกเว้น:

  • ผิด: 昨天我没是学生 (Zuótiān wǒ méi shì xuésheng)
  • ถูก: 昨天我不是学生 (Zuótiān wǒ bù shì xuésheng) – เมื่อวานฉันไม่ใช่นักเรียน
  • ผิด: 他昨天没在家 (Tā zuótiān méi zài jiā)
  • ถูก: 他昨天不在家 (Tā zuótiān bù zài jiā) – เมื่อวานเขาไม่อยู่บ้าน

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและไม่ต้องสับสนอีกต่อไป ลองดูตารางสรุปนี้ได้เลยค่ะ

สถานการณ์ใช้ (bù) หรือ (méi)?ตัวอย่าง
ปฏิเสธการกระทำใน ปัจจุบัน/อนาคต我不去
(wǒ bù qù)
ฉันไม่ไป
ปฏิเสธการกระทำที่เป็น นิสัย/ความชอบ我不喝咖啡
(wǒ bù hē kāfēi)
ฉันไม่ดื่มกาแฟ
ปฏิเสธ คำคุณศัพท์ (ไม่สวย, ไม่แพง)这个不贵
(zhège bù guì)
อันนี้ไม่แพง
ปฏิเสธการกระทำใน อดีต (“ไม่ได้…”)我没去
(wǒ méi qù)
ฉันไม่ได้ไป
ปฏิเสธการมีอยู่ (“ไม่มี“)()我没有猫
(wǒ méiyǒu māo)
ฉันไม่มีแมว
ข้อยกเว้น! กริยาพิเศษ (, , ) (เสมอ!)他昨天不在
(tā zuótiān bù zài)
เมื่อวานเขาไม่อยู่

 

ถามเป็น พูดคล่อง สร้างประโยคคำถามอย่างเจ้าของภาษา

เมื่อเราสร้างประโยคบอกเล่าและปฏิเสธได้แล้ว ขั้นต่อไปที่สำคัญคือการตั้งคำถาม เพื่อให้การสนทนาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ภาษาจีนมีวิธีการสร้างประโยคคำถามที่หลากหลายแต่ไม่ซับซ้อนเลยค่ะ

คำถามง่ายๆ ใช่หรือไม่ การใช้ (ma)

วิธีที่ง่ายและพื้นฐานที่สุดในการสร้างประโยคคำถามแบบ “ใช่หรือไม่” คือการเติมคำช่วยเสริมน้ำเสียง (ma) ไว้ที่ท้ายประโยคบอกเล่า เพียงเท่านี้ประโยคบอกเล่าก็จะกลายเป็นประโยคคำถามทันที โดยที่โครงสร้างอื่นๆ ของประโยคไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเลย

โครงสร้าง: ประโยคบอกเล่า + (ma)?

  • ประโยคบอกเล่า: 你是老师 (Nǐ shì lǎoshī) – คุณเป็นคุณครู
  • ประโยคคำถาม: 你是老师吗? (Nǐ shì lǎoshī ma?) – คุณเป็นคุณครูไหม
  • ประโยคบอกเล่า: 他喝水 (Tā hē shuǐ) – เขา(ผู้ชาย)ดื่มน้ำ
  • ประโยคคำถาม: 他喝水吗? (Tā hē shuǐ ma?) – เขา(ผู้ชาย)ดื่มน้ำไหม
  • ประโยคบอกเล่า: 你吃饭了 (Nǐ chīfàn le) – คุณกินข้าวแล้ว
  • ประโยคคำถาม: 你吃饭了吗? (Nǐ chīfàn le ma?) – คุณกินข้าวแล้วหรือยัง

 

ถามกลับ “แล้ว…ล่ะ”: การใช้ (ne)

(ne) เป็นคำช่วยเสริมน้ำเสียงอีกตัวหนึ่งที่ใช้บ่อยมากในบทสนทนา ใช้เพื่อถามคำถามเดิมกลับไปยังคู่สนทนา หรือถามถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ มีความหมายคล้ายกับ “แล้ว…ล่ะ?” ในภาษาไทย

โครงสร้าง: ประธาน/หัวข้อ + (ne)?

  • ตัวอย่าง 1:
    • A: 我很好。
      (Wǒ hěn hǎo)
      ฉันสบายดี
    • B: 你呢?
      (Nǐ ne?)
      แล้วคุณล่ะ
  • ตัวอย่าง 2:
    • A: 我的书在这儿。
      (Wǒ de shū zài zhèr)
      หนังสือของฉันอยู่ที่นี่
    • B: 我的呢?
      (Wǒ de ne?)
      แล้วของฉันล่ะ (อยู่ที่ไหน)

 

คำถามเจาะจง ใคร อะไร ที่ไหน เท่าไหร่ อย่างไร

สำหรับคำถามที่ต้องการคำตอบที่เจาะจง (ไม่ใช่แค่ใช่/ไม่ใช่) ภาษาจีนจะใช้คำสรรพนามสำหรับคำถาม เช่น (shéi), 什么 (shénme), 哪儿 (nǎr) เป็นต้น

จุดเด่นและเป็นข่าวดีสำหรับผู้เรียนคือ โครงสร้างประโยคคำถามแบบ จะเหมือนกับประโยคบอกเล่าทุกประการ เราเพียงแค่นำคำสรรพนามสำหรับคำถามไปวางไว้ใน “ตำแหน่งของคำตอบ” ที่เราต้องการจะรู้เท่านั้น ไม่มีการสลับตำแหน่งประธานกับกริยาเหมือนในภาษาอังกฤษ

ลองนึกภาพตามนะคะ:

  • คำตอบ: 他是老师 (Tā shì lǎoshī) – เขาคือคุณครู
  • คำถาม: 他是谁? (Tā shì shéi?) – เขาคือใคร
  • คำตอบ: 我在家 (Wǒ zài jiā) – ฉันอยู่ที่บ้าน
  • คำถาม: 你在哪儿? (Nǐ zài nǎr?) – คุณอยู่ที่ไหน

มาดูคำสรรพนามสำหรับคำถามที่สำคัญในระดับ HSK 1 กันค่ะ:

  • (shéi) – ใคร
    • ตัวอย่าง:
      他是谁?
      (Tā shì shéi?)
      เขาคือใคร
  • 什么 (shénme) – อะไร
    • ตัวอย่าง:
      这是什么?
      (Zhè shì shénme?)
      นี่คืออะไร
  • 哪儿 (nǎr) – ที่ไหน
    • ตัวอย่าง:
      你在哪儿?
      (Nǐ zài nǎr?)
      คุณอยู่ที่ไหน
  • (jǐ) – กี่ (ใช้กับจำนวนที่คาดว่าน้อยกว่า 10)
    • ตัวอย่าง:
      现在几点了?
      (Xiànzài jǐ diǎn le?)
      ตอนนี้กี่โมงแล้ว
  • 多少 (duōshao) – เท่าไหร่ (ใช้กับจำนวนที่คาดว่ามากกว่า 10 หรือไม่ทราบจำนวน)
    • ตัวอย่าง:
      这个多少钱?
      (Zhège duōshao qián?)
      อันนี้ราคาเท่าไหร่
  • 怎么 (zěnme) – อย่างไร (ถามวิธี)
    • ตัวอย่าง:
      你怎么去学校?
      (Nǐ zěnme qù xuéxiào?)
      คุณไปโรงเรียนอย่างไร
  • 怎么样 (zěnmeyàng) – เป็นอย่างไรบ้าง (ถามความเห็น, สภาพ)
    • ตัวอย่าง:
      今天天气怎么样?
      (Jīntiān tiānqì zěnmeyàng?)
      วันนี้อากาศเป็นอย่างไรบ้าง

 

ตัวต่อเสริมประโยค – ชิ้นส่วนเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่าง

เมื่อเราเข้าใจโครงสร้างหลักและวิธีสร้างคำถามแล้ว ก็ถึงเวลามาทำความรู้จักกับ “ตัวต่อ” ชิ้นเล็กๆ ที่จะช่วยให้ประโยคของเรามีความสมบูรณ์ มีสีสัน และสื่อความหมายได้ละเอียดลออยิ่งขึ้นค่ะ

ลักษณนาม (Measure Words): หัวใจของการนับ

ภาษาจีนมีสิ่งที่เรียกว่า “ลักษณนาม” (Measure Words) เหมือนกับภาษาไทยเลยค่ะ เวลาที่เราจะนับจำนวนของคำนามใดๆ เราไม่สามารถพูดแค่ “ตัวเลข + คำนาม” ได้ แต่จะต้องมีลักษณนามมาคั่นกลางเสมอ

โครงสร้าง: ตัวเลข + ลักษณนาม + คำนาม

การใช้ (gè) – ลักษณนามครอบจักรวาล

สำหรับผู้เรียนระดับเริ่มต้น ข่าวดีที่สุดคือลักษณนามที่ใช้บ่อยที่สุดและเปรียบเสมือน “มาสเตอร์คีย์” คือคำว่า (gè) ซึ่งสามารถใช้ได้กับคำนามหลากหลายประเภท ทั้งคนและสิ่งของทั่วไป ในช่วงแรกหากเรายังไม่แน่ใจว่าจะใช้ลักษณนามตัวไหนดี การใช้ (gè) ก็มักจะพออนุโลมได้และสื่อสารเข้าใจค่ะ

  • ตัวอย่าง 1:
    一个人
    (yí ge rén)
    คนหนึ่งคน
  • ตัวอย่าง 2:
    三个苹果
    (sān ge píngguǒ)
    แอปเปิ้ลสามผล
  • ตัวอย่าง 3:
    五个学生
    (wǔ ge xuésheng)
    นักเรียนห้าคน

ศึกชิงบัลลังก์เลข 2: (èr) vs (liǎng)

อีกหนึ่งจุดที่ผู้เรียนมักสับสนคือการใช้เลข “สอง” ภาษาจีนมีคำว่า “สอง” ถึงสองคำ คือ (èr) และ (liǎng) ซึ่งมีกฎการใช้งานที่ชัดเจนมาก

กฎง่ายๆ ที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ:

  • ใช้ (liǎng) เมื่อต้องการบอก จำนวนนับ ของสิ่งของที่มีลักษณนามตามหลัง
  • ใช้ (èr) เมื่อเป็นการ อ่านตัวเลข เรียงกัน เช่น หมายเลขโทรศัพท์, เลขที่บ้าน, ปี ค.ศ. หรือการนับเลข (หนึ่ง, สอง, สาม)
สถานการณ์ใช้คำไหน?ตัวอย่าง
เมื่อนับจำนวนสิ่งของ (มีลักษณนาม)两个人 (liǎng ge rén), 两本书 (liǎng běn shū)
เมื่อบอกเวลา 2 นาฬิกา两点 (liǎng diǎn)
เมื่อนับเลขเรียงกัน (หนึ่ง, สอง, สาม), , (yī, èr, sān)
เมื่อบอกเลขที่, เบอร์โทร, ปี ค.ศ.第二 (dì-èr), 2024年 (èr líng èr sì nián)

 

แสดงความเป็นเจ้าของ  (de)

หากต้องการจะบอกว่าสิ่งของบางอย่างเป็นของใคร เราจะใช้อนุภาค (de) ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ ‘s ในภาษาอังกฤษ หรือคำว่า “ของ” ในภาษาไทย

โครงสร้าง: เจ้าของ + (de) + สิ่งของ

  • ตัวอย่าง 1:
    我的老师
    (wǒ de lǎoshī)
    คุณครูของฉัน
  • ตัวอย่าง 2:
    他的书
    (tā de shū)
    หนังสือของเขา
  • ตัวอย่าง 3:
    这是谁的手机?
    (Zhè shì shéi de shǒujī?)
    นี่คือโทรศัพท์ของใคร

 

คำวิเศษณ์พื้นฐาน เพิ่มรสชาติให้ประโยค

คำวิเศษณ์ (Adverbs) คือคำที่ใช้วางหน้าคำกริยาหรือคำคุณศัพท์เพื่อขยายความหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในระดับ HSK 1 มีคำวิเศษณ์พื้นฐานที่ควรรู้จักดังนี้ค่ะ

  • (tài…le) -…เกินไปใช้คร่อมคำคุณศัพท์เพื่อแสดงความรู้สึกว่าสิ่งนั้นมีระดับที่ “มากเกินไป” หรือ “สุดๆ ไปเลย” ในเชิงอุทาน
    • ตัวอย่าง:
      太好了!
      (Tài hǎo le!)
      ดีเยี่ยมไปเลย!
    • ตัวอย่าง:
      这件衣服太贵了
      (Zhè jiàn yīfu tài guì le)
      เสื้อตัวนี้แพงเกินไป
  • (dōu) – ทั้งหมด, ล้วนใช้วางหน้าคำกริยาเพื่อเน้นว่าประธานทั้งหมดทำกริยานั้นๆ เหมือนกัน
    • ตัวอย่าง:
      我们都喜欢汉语
      (Wǒmen dōu xǐhuān Hànyǔ)
      พวกเราล้วนชอบภาษาจีน
  • (yě) -…ก็…ด้วยเหมือนกันใช้วางหน้าคำกริยาเพื่อบอกว่าประธานก็ทำสิ่งนั้นเช่นเดียวกัน
    • ตัวอย่าง:
      我也是学生
      (Wǒ yě shì xuésheng)
      ฉันก็เป็นนักเรียนเหมือนกัน

 

การบอกเวลาและวันที่

หลักการบอกเวลาและวันที่ในภาษาจีนนั้นมีระเบียบและจำง่ายมาก คือจะเรียงลำดับจาก หน่วยใหญ่ไปหาหน่วยเล็ก เสมอ

การบอกวันที่: ปี ( nián) + เดือน ( yuè) + วันที่ ( rì หรือ hào)

  • ตัวอย่าง:
    今天是2024年7月15日
    (Jīntiān shì èr líng èr sì nián qī yuè shíwǔ rì)
    วันนี้คือวันที่ 15 กรกฎาคม 2024

การบอกเวลา: ชั่วโมง ( diǎn) + นาที ( fēn)

  • ตัวอย่าง:
    现在十一点十八分
    (Xiànzài shíyī diǎn shíbā fēn)
    ตอนนี้ 11 โมง 18 นาที

 

การกระทำที่จบไปแล้ว (le)

(le) เป็นหนึ่งในอนุภาคที่สำคัญที่สุดในภาษาจีน ใช้เพื่อบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงหรือการเสร็จสิ้นของการกระทำ ในระดับ HSK 1 เราจะเน้นไปที่ 2 หน้าที่หลักของมัน

1. วางหลังคำกริยา: บอกว่าการกระทำนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว (Completed Action)

  • ตัวอย่าง:
    我吃了两个苹果
    (Wǒ chī le liǎng ge píngguǒ)
    ฉันกินแอปเปิ้ลไปแล้วสองผล

2. วางท้ายประโยค: บอกว่ามีสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้น หรือเกิดการเปลี่ยนแปลง (Change of State)

  • ตัวอย่าง:
    下雨了
    (Xià yǔ le)
    ฝนตกแล้ว (ก่อนหน้านี้ไม่ตก แต่ตอนนี้เริ่มตกแล้ว)
  • ตัวอย่าง:
    我不想吃了
    (Wǒ bù xiǎng chī le)
    ฉันไม่อยากกินแล้ว (ก่อนหน้านี้อยาก แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว)

การทำความเข้าใจไวยากรณ์เหล่านี้จะเป็นพื้นฐานที่มั่นคง ช่วยให้นักเรียนสามารถนำคำศัพท์ 150 คำของ HSK 1 ไปใช้สร้างประโยคเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

 

คลังคำศัพท์ HSK 1 (150 คำ)

นี่คือรายการคำศัพท์และวลีทั้งหมด 150 คำสำหรับระดับ HSK 1 ที่นักเรียนทุกคนจำเป็นต้องรู้ แต่ละคำมาพร้อมกับพินอิน คำอ่านภาษาไทย คำแปล และประโยคตัวอย่าง 2 ประโยคที่ออกแบบมาเพื่อทบทวนไวยากรณ์ที่ได้เรียนไปในบทความนี้ ขอให้ใช้ตารางนี้เป็นเครื่องมือในการทบทวนและฝึกฝนให้คล่องแคล่วนะคะ

ตัวอักษรPinyinคำอ่านคำแปลประโยคตัวอย่าง 1ประโยคตัวอย่าง 2
àiอ้ายรัก, ชอบ我爱你
wǒ ài nǐ
ฉันรักคุณ
女儿爱吃米饭
nǚ’ér ài chī mǐfàn
ลูกสาวชอบกินข้าวสวย
ปาแปด他八岁了
tā bā suì le
เขาอายุแปดขวบแล้ว
我有八本书
wǒ yǒu bā běn shū
ฉันมีหนังสือแปดเล่ม
爸爸bàbaป้าปะพ่อ我爸爸是医生
wǒ bàba shì yīshēng
พ่อของฉันเป็นหมอ
这是我爸爸
zhè shì wǒ bàba
นี่คือพ่อของฉัน
杯子bēiziเปยจึถ้วย, แก้ว桌子上有一个杯子
zhuōzi shàng yǒu yí ge bēizi
บนโต๊ะมีแก้วหนึ่งใบ
这个杯子多少钱?
zhège bēizi duōshao qián?
แก้วใบนี้ราคาเท่าไหร่
北京Běijīngเป่ยจิงปักกิ่ง我住在北京
wǒ zhù zài Běijīng
ฉันอาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง
他想去北京
tā xiǎng qù Běijīng
เขาอยากไปปักกิ่ง
běnเปิ่นเล่ม (ลักษณนาม)这是一本书
zhè shì yì běn shū
นี่คือหนังสือหนึ่งเล่ม
我有两本汉语书
wǒ yǒu liǎng běn Hànyǔ shū
ฉันมีหนังสือภาษาจีนสองเล่ม
不客气bú kèqiปู๋ เค่อฉิไม่เป็นไรA: 谢谢你! (xièxie nǐ!)
B: 不客气! (bú kèqi!)
老师说:“不客气
lǎoshī shuō: “bú kèqi”
คุณครูพูดว่า “ไม่เป็นไร”
ปู้ไม่我不是学生
wǒ bú shì xuésheng
ฉันไม่ใช่นักเรียน
今天不热
jīntiān bù rè
วันนี้ไม่ร้อน
càiไช่อาหาร, ผัก我妈妈会做中国菜
wǒ māma huì zuò Zhōngguó cài
แม่ของฉันทำอาหารจีนเป็น
你喜欢吃什么菜?
nǐ xǐhuān chī shénme cài?
คุณชอบกินกับข้าวอะไร
cháฉาชา我想喝茶
wǒ xiǎng hē chá
ฉันอยากดื่มชา
这是中国茶吗?
zhè shì Zhōngguó chá ma?
นี่คือชาจีนใช่ไหม
chīชือกิน你想吃什么?
nǐ xiǎng chī shénme?
คุณอยากกินอะไร
我吃了一个苹果
wǒ chī le yí ge píngguǒ
ฉันกินแอปเปิ้ลไปแล้วหนึ่งผล
出租车chūzūchēชูจูเชอรถแท็กซี่我坐出租车去学校
wǒ zuò chūzūchē qù xuéxiào
ฉันนั่งแท็กซี่ไปโรงเรียน
请帮我叫一辆出租车
qǐng bāng wǒ jiào yí liàng chūzūchē
กรุณาช่วยเรียกแท็กซี่ให้ฉันหนึ่งคัน
打电话dǎ diànhuàต่า เตี้ยนฮว่าโทรศัพท์我在给妈妈打电话
wǒ zài gěi māma dǎ diànhuà
ฉันกำลังโทรศัพท์หาแม่อยู่
他没打电话
tā méi dǎ diànhuà
เขาไม่ได้โทรศัพท์มา
ต้าใหญ่这个苹果很大
zhège píngguǒ hěn dà
แอปเปิ้ลผลนี้ใหญ่มาก
他的家不大
tā de jiā bú dà
บ้านของเขาไม่ใหญ่
deเตอะของ这是我的书
zhè shì wǒ de shū
นี่คือหนังสือของฉัน
那个红色的杯子是她的
nàge hóngsè de bēizi shì tā de
แก้วสีแดงใบนั้นเป็นของหล่อน
diǎnเตี่ยนโมง (เวลา)现在三点了
xiànzài sān diǎn le
ตอนนี้สามโมงแล้ว
我们八点看电影
wǒmen bā diǎn kàn diànyǐng
พวกเราดูหนังตอนสองทุ่ม
电脑diànnǎoเตี้ยนเหน่าคอมพิวเตอร์我想买一个新电脑
wǒ xiǎng mǎi yí ge xīn diànnǎo
ฉันอยากซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่
我用电脑工作
wǒ yòng diànnǎo gōngzuò
ฉันใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน
电视diànshìเตี้ยนซื่อโทรทัศน์我在家看电视
wǒ zài jiā kàn diànshì
ฉันดูทีวีอยู่ที่บ้าน
你喜欢看电视吗?
nǐ xǐhuān kàn diànshì ma?
คุณชอบดูทีวีไหม
电影diànyǐngเตี้ยนอิ่งภาพยนตร์我喜欢看中国电影
wǒ xǐhuān kàn Zhōngguó diànyǐng
ฉันชอบดูหนังจีน
这部电影太好看了
zhè bù diànyǐng tài hǎokàn le
หนังเรื่องนี้สนุกมาก
东西dōngxiตงซิสิ่งของ你买了什么东西?
nǐ mǎi le shénme dōngxi?
คุณซื้ออะไรมา
我没买东西
wǒ méi mǎi dōngxi
ฉันไม่ได้ซื้อของ
dōuโตวทั้งหมด我们都是学生
wǒmen dōu shì xuésheng
พวกเราล้วนเป็นนักเรียน
这些我都喜欢
zhèxiē wǒ dōu xǐhuān
ของพวกนี้ฉันชอบทั้งหมด
ตู๋อ่าน你会读这个汉字吗?
nǐ huì dú zhège Hànzì ma?
คุณอ่านอักษรจีนตัวนี้เป็นไหม
请读一下这本书
qǐng dú yíxià zhè běn shū
กรุณาอ่านหนังสือเล่มนี้หน่อย
对不起duìbuqǐตุ้ยปู้ฉี่ขอโทษ对不起,我来晚了
duìbuqǐ, wǒ lái wǎn le
ขอโทษ ฉันมาสาย
他说了对不起
tā shuō le duìbuqǐ
เขาพูดขอโทษแล้ว
duōตัวมาก, เยอะ这里人很多
zhèli rén hěn duō
ที่นี่คนเยอะมาก
你儿子多大了?
nǐ érzi duō dà le?
ลูกชายของคุณอายุเท่าไหร่แล้ว
多少duōshaoตัวส่าวเท่าไหร่这个杯子多少钱?
zhège bēizi duōshao qián?
แก้วใบนี้ราคาเท่าไหร่
你们学校有多少学生?
nǐmen xuéxiào yǒu duōshao xuésheng?
โรงเรียนของคุณมีนักเรียนกี่คน
儿子érziเอ๋อร์จึลูกชาย我儿子三岁了
wǒ érzi sān suì le
ลูกชายของฉันสามขวบแล้ว
他没有儿子
tā méiyǒu érzi
เขาไม่มีลูกชาย
èrเอ้อร์สอง今天是星期二
jīntiān shì xīngqī’èr
วันนี้คือวันอังคาร
这是第二课
zhè shì dì-èr kè
นี่คือบทที่สอง
饭店fàndiànฟ่านเตี้ยนร้านอาหาร我在饭店吃饭
wǒ zài fàndiàn chīfàn
ฉันกินข้าวที่ร้านอาหาร
这家饭店怎么样?
zhè jiā fàndiàn zěnmeyàng?
ร้านอาหารร้านนี้เป็นอย่างไรบ้าง
飞机fēijīเฟยจีเครื่องบิน我坐飞机去中国
wǒ zuò fēijī qù Zhōngguó
ฉันนั่งเครื่องบินไปประเทศจีน
飞机几点到?
fēijī jǐ diǎn dào?
เครื่องบินจะมาถึงกี่โมง
分钟fēnzhōngเฟินจงนาที请等我五分钟
qǐng děng wǒ wǔ fēnzhōng
กรุณารอฉันห้านาที
现在是三点十分钟
xiànzài shì sān diǎn shí fēnzhōng
ตอนนี้คือเวลาสามโมงสิบนาที
高兴gāoxìngเกาซิ่งดีใจ认识你很高兴
rènshi nǐ hěn gāoxìng
ยินดีที่ได้รู้จัก
他今天不高兴
tā jīntiān bù gāoxìng
วันนี้เขาไม่มีความสุข
เก้ออัน, คน我有一个苹果
wǒ yǒu yí ge píngguǒ
ฉันมีแอปเปิ้ลหนึ่งผล
他是好人
tā shì hǎo rén
เขาเป็นคนดี
工作gōngzuòกงจั้วทำงาน, งาน我爸爸在北京工作
wǒ bàba zài Běijīng gōngzuò
พ่อของฉันทำงานที่ปักกิ่ง
你喜欢你的工作吗?
nǐ xǐhuān nǐ de gōngzuò ma?
คุณชอบงานของคุณไหม
gǒuโก่วสุนัข我家有一只狗
wǒ jiā yǒu yì zhī gǒu
ที่บ้านฉันมีสุนัขหนึ่งตัว
那只小狗很可爱
nà zhī xiǎo gǒu hěn kě’ài
ลูกสุนัขตัวนั้นน่ารักมาก
汉语Hànyǔฮั่นอวี่ภาษาจีน我在学习汉语
wǒ zài xuéxí Hànyǔ
ฉันกำลังเรียนภาษาจีนอยู่
汉语难吗?
Hànyǔ nán ma?
ภาษาจีนยากไหม
hǎoห่าวดี你好吗?
nǐ hǎo ma?
คุณสบายดีไหม
这本书很好
zhè běn shū hěn hǎo
หนังสือเล่มนี้ดีมาก
เฮอดื่ม你想喝什么?
nǐ xiǎng hē shénme?
คุณอยากดื่มอะไร
我不喝咖啡
wǒ bù hē kāfēi
ฉันไม่ดื่มกาแฟ
เหอและ, กับ我和妈妈去商店
wǒ hé māma qù shāngdiàn
ฉันกับแม่ไปร้านค้า
桌子上有书和杯子
zhuōzi shàng yǒu shū hé bēizi
บนโต๊ะมีหนังสือและแก้วน้ำ
hěnเหิ่นมาก我很好
wǒ hěn hǎo
ฉันสบายดี
今天天气很冷
jīntiān tiānqì hěn lěng
วันนี้อากาศหนาวมาก
后面hòumianโฮ่วเมี่ยนข้างหลัง商店在学校后面
shāngdiàn zài xuéxiào hòumian
ร้านค้าอยู่ข้างหลังโรงเรียน
我在你后面
wǒ zài nǐ hòumian
ฉันอยู่ข้างหลังคุณ
huíหุยกลับ你几点回家?
nǐ jǐ diǎn huí jiā?
คุณกลับบ้านกี่โมง
他明天回中国
tā míngtiān huí Zhōngguó
พรุ่งนี้เขากลับประเทศจีน
huìฮุ่ยสามารถ, จะ我会说汉语
wǒ huì shuō Hànyǔ
ฉันพูดภาษาจีนเป็น
明天会下雨
míngtiān huì xià yǔ
พรุ่งนี้ฝนจะตก
火车站huǒchēzhànหั่วเชอจั้นสถานีรถไฟ我要去火车站
wǒ yào qù huǒchēzhàn
ฉันจะไปสถานีรถไฟ
火车站离这儿远吗?
huǒchēzhàn lí zhèr yuǎn ma?
สถานีรถไฟไกลจากที่นี่ไหม
จี่กี่你有几个苹果?
nǐ yǒu jǐ ge píngguǒ?
คุณมีแอปเปิ้ลกี่ผล
现在几点了?
xiànzài jǐ diǎn le?
ตอนนี้กี่โมงแล้ว
jiāเจียบ้าน我家有四口人
wǒ jiā yǒu sì kǒu rén
ครอบครัวของฉันมีสี่คน
我在家看电视
wǒ zài jiā kàn diànshì
ฉันดูทีวีอยู่ที่บ้าน
jiàoเจี้ยวชื่อว่า, เรียก你叫什么名字?
nǐ jiào shénme míngzi?
คุณชื่ออะไร
我叫大卫
wǒ jiào Dàwèi
ฉันชื่อเดวิด
今天jīntiānจินเทียนวันนี้今天星期几?
jīntiān xīngqī jǐ?
วันนี้วันอะไร
我今天很高兴
wǒ jīntiān hěn gāoxìng
วันนี้ฉันดีใจมาก
jiǔจิ่วเก้า现在九点了
xiànzài jiǔ diǎn le
ตอนนี้เก้าโมงแล้ว
我有九块钱
wǒ yǒu jiǔ kuài qián
ฉันมีเงินเก้าหยวน
kāiคายเปิด, ขับรถ他会开车
tā huì kāichē
เขาขับรถเป็น
请开门
qǐng kāi mén
กรุณาเปิดประตู
kànคั่นดู, มอง, อ่าน我喜欢看书
wǒ xǐhuān kàn shū
ฉันชอบอ่านหนังสือ
你在看什么?
nǐ zài kàn shénme?
เธอกำลังดูอะไรอยู่
看见kànjiànคั่นเจี้ยนมองเห็น我看见他了
wǒ kànjiàn tā le
ฉันเห็นเขาแล้ว
你看见我的手机了吗?
nǐ kànjiàn wǒ de shǒujī le ma?
คุณเห็นโทรศัพท์ของฉันไหม
kuàiไขว้หยวน, ชิ้น这本书三十块钱
zhè běn shū sānshí kuài qián
หนังสือเล่มนี้ราคา 30 หยวน
我想吃一块蛋糕
wǒ xiǎng chī yí kuài dàngāo
ฉันอยากกินเค้กหนึ่งชิ้น
láiไหลมา他明天会来吗?
tā míngtiān huì lái ma?
พรุ่งนี้เขาจะมาไหม
欢迎来到中国!
huānyíng láidào Zhōngguó!
ยินดีต้อนรับสู่ประเทศจีน
老师lǎoshīเหล่าซือคุณครู他是我们的汉语老师
tā shì wǒmen de Hànyǔ lǎoshī
เขาคือคุณครูสอนภาษาจีนของพวกเรา
老师,你好!
lǎoshī, nǐ hǎo!
สวัสดีครับ/ค่ะ คุณครู
leเลอะแล้ว我吃饭了
wǒ chīfàn le
ฉันกินข้าวแล้ว
太好了!
tài hǎo le!
ดีเยี่ยมไปเลย
lěngเหลิ่งหนาว今天很冷
jīntiān hěn lěng
วันนี้หนาวมาก
我觉得有点儿冷
wǒ juéde yǒudiǎnr lěng
ฉันรู้สึกหนาวนิดหน่อย
หลี่ใน学校里有很多学生
xuéxiào lǐ yǒu hěn duō xuésheng
ในโรงเรียนมีนักเรียนมากมาย
我的书在书包里
wǒ de shū zài shūbāo lǐ
หนังสือของฉันอยู่ในกระเป๋า
língหลิงศูนย์今天是零度
jīntiān shì líng dù
วันนี้อุณหภูมิศูนย์องศา
我的电话是二零三
wǒ de diànhuà shì èr líng sān
เบอร์โทรของฉันคือ 203
liùลิ่วหก我有六个朋友
wǒ yǒu liù ge péngyou
ฉันมีเพื่อนหกคน
现在六点了
xiànzài liù diǎn le
ตอนนี้หกโมงแล้ว
妈妈māmaมามะแม่我爱我妈妈
wǒ ài wǒ māma
ฉันรักแม่ของฉัน
我妈妈是医生
wǒ māma shì yīshēng
แม่ของฉันเป็นหมอ
maมะไหม你是中国人吗?
nǐ shì Zhōngguó rén ma?
คุณเป็นคนจีนไหม
你吃饭了吗?
nǐ chīfàn le ma?
คุณกินข้าวแล้วหรือยัง
mǎiหม่ายซื้อ我想买水果
wǒ xiǎng mǎi shuǐguǒ
ฉันอยากซื้อผลไม้
你买了什么?
nǐ mǎi le shénme?
คุณซื้ออะไรมา
māoเมาแมว我家有两只猫
wǒ jiā yǒu liǎng zhī māo
ที่บ้านฉันมีแมวสองตัว
那只猫很漂亮
nà zhī māo hěn piàoliang
แมวตัวนั้นสวยมาก
没关系méi guānxiเหมย กวานซิไม่เป็นไรA: 对不起! (duìbuqǐ!)
B: 没关系! (méi guānxi!)
这件事没关系
zhè jiàn shì méi guānxi
เรื่องนี้ไม่เป็นไร
méiเหมยไม่ได้, ไม่มี我没吃饭
wǒ méi chīfàn
ฉันไม่ได้กินข้าว
我没有钱
wǒ méiyǒu qián
ฉันไม่มีเงิน
米饭mǐfànหมี่ฟ่านข้าวสวย你想吃米饭吗?
nǐ xiǎng chī mǐfàn ma?
คุณอยากกินข้าวสวยไหม
我不爱吃米饭
wǒ bú ài chī mǐfàn
ฉันไม่ชอบกินข้าวสวย
明天míngtiānหมิงเทียนพรุ่งนี้明天见!
míngtiān jiàn!
พรุ่งนี้เจอกัน
明天天气怎么样?
míngtiān tiānqì zěnmeyàng?
พรุ่งนี้อากาศเป็นอย่างไร
名字míngziหมิงจึชื่อ你叫什么名字?
nǐ jiào shénme míngzi?
คุณชื่ออะไร
我的名字叫玛丽
wǒ de míngzi jiào Mǎlì
ฉันชื่อแมรี่
หน่าไหน你是哪国人?
nǐ shì nǎ guó rén?
คุณเป็นคนประเทศไหน
你要去哪个饭店?
nǐ yào qù nǎge fàndiàn?
คุณจะไปร้านอาหารร้านไหน
哪儿nǎrหน่าร์ที่ไหน你在哪儿?
nǐ zài nǎr?
คุณอยู่ที่ไหน
洗手间在哪儿?
xǐshǒujiān zài nǎr?
ห้องน้ำอยู่ที่ไหน
น่านั่น, นั้น那是谁?
nà shì shéi?
นั่นคือใคร
那本书是我的
nà běn shū shì wǒ de
หนังสือเล่มนั้นเป็นของฉัน
neเนอะล่ะ我很好,你呢?
wǒ hěn hǎo, nǐ ne?
ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ
我在看书呢
wǒ zài kàn shū ne
ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่
néngเหนิงสามารถ我能坐在这儿吗?
wǒ néng zuò zài zhèr ma?
ฉันนั่งตรงนี้ได้ไหม
他不能来
tā bù néng lái
เขามาไม่ได้
หนี่คุณ, เธอ你好!
nǐ hǎo!
สวัสดี
你是哪国人?
nǐ shì nǎ guó rén?
คุณเป็นคนประเทศไหน
niánเหนียนปี我来中国一年了
wǒ lái Zhōngguó yì nián le
ฉันมาประเทศจีนหนึ่งปีแล้ว
今年是2024年
jīnnián shì èr líng èr sì nián
ปีนี้คือปี 2024
女儿nǚ’érนวี่เอ๋อร์ลูกสาว她是我的女儿
tā shì wǒ de nǚ’ér
หล่อนคือลูกสาวของฉัน
你女儿几岁了?
nǐ nǚ’ér jǐ suì le?
ลูกสาวของคุณกี่ขวบแล้ว
朋友péngyouเผิงโหย่วเพื่อน他是我的好朋友
tā shì wǒ de hǎo péngyou
เขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน
你有很多朋友吗?
nǐ yǒu hěn duō péngyou ma?
คุณมีเพื่อนเยอะไหม
漂亮piàoliangเพี่ยวเลี่ยงสวย你很漂亮
nǐ hěn piàoliang
คุณสวยมาก
这件衣服很漂亮
zhè jiàn yīfu hěn piàoliang
เสื้อผ้าตัวนี้สวยมาก
苹果píngguǒผิงกั่วแอปเปิ้ล我想吃一个苹果
wǒ xiǎng chī yí ge píngguǒ
ฉันอยากกินแอปเปิ้ลหนึ่งผล
这个苹果多少钱?
zhège píngguǒ duōshao qián?
แอปเปิ้ลผลนี้ราคาเท่าไหร่
ชีเจ็ด一个星期有七天
yí ge xīngqī yǒu qī tiān
หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน
我有七本书
wǒ yǒu qī běn shū
ฉันมีหนังสือเจ็ดเล่ม
qiánเฉียนเงิน我没有钱
wǒ méiyǒu qián
ฉันไม่มีเงิน
你有多少钱?
nǐ yǒu duōshao qián?
คุณมีเงินเท่าไหร่
前面qiánmianเฉียนเมี่ยนข้างหน้า我家前面有一个商店
wǒ jiā qiánmian yǒu yí ge shāngdiàn
ข้างหน้าบ้านฉันมีร้านค้าหนึ่งร้าน
老师在学生前面
lǎoshī zài xuésheng qiánmian
คุณครูอยู่ข้างหน้านักเรียน
qǐngฉิ่งเชิญ, กรุณา请坐
qǐng zuò
เชิญนั่ง
请问,洗手间在哪儿?
qǐngwèn, xǐshǒujiān zài nǎr?
ขอถามหน่อย ห้องน้ำอยู่ที่ไหน
ชวี่ไป我要去学校
wǒ yào qù xuéxiào
ฉันจะไปโรงเรียน
你想去哪儿?
nǐ xiǎng qù nǎr?
คุณอยากไปที่ไหน
เร่อร้อน今天很热
jīntiān hěn rè
วันนี้ร้อนมาก
我想喝点儿热茶
wǒ xiǎng hē diǎnr rè chá
ฉันอยากดื่มชาร้อนหน่อย
rénเหรินคน我是中国人
wǒ shì Zhōngguó rén
ฉันเป็นคนจีน
饭店里有很多人
fàndiàn lǐ yǒu hěn duō rén
ในร้านอาหารมีคนเยอะมาก
认识rènshiเริ่นชิรู้จัก我不认识他
wǒ bú rènshi tā
ฉันไม่รู้จักเขา
很高兴认识你
hěn gāoxìng rènshi nǐ
ยินดีมากที่ได้รู้จักคุณ
รื่อวันที่, พระอาทิตย์今天是八月十日
jīntiān shì bā yuè shí rì
วันนี้คือวันที่สิบเดือนสิงหาคม
你的生日是几月几日?
nǐ de shēngrì shì jǐ yuè jǐ rì?
วันเกิดของคุณคือวันที่เท่าไหร่เดือนอะไร
sānซานสาม我有三个苹果
wǒ yǒu sān ge píngguǒ
ฉันมีแอปเปิ้ลสามผล
现在三点了
xiànzài sān diǎn le
ตอนนี้สามโมงแล้ว
商店shāngdiànซางเตี้ยนร้านค้า我要去商店买东西
wǒ yào qù shāngdiàn mǎi dōngxi
ฉันจะไปร้านค้าซื้อของ
这家商店很小
zhè jiā shāngdiàn hěn xiǎo
ร้านค้าร้านนี้เล็กมาก
shàngซ่างบน, เข้า书在桌子上
shū zài zhuōzi shàng
หนังสืออยู่บนโต๊ะ
我上午八点上课
wǒ shàngwǔ bā diǎn shàngkè
ฉันเข้าเรียนตอนแปดโมงเช้า
上午shàngwǔซ่างอู่ตอนเช้า我上午有汉语课
wǒ shàngwǔ yǒu Hànyǔ kè
ตอนเช้าฉันมีเรียนภาษาจีน
上午好!
shàngwǔ hǎo!
สวัสดีตอนเช้า
shǎoส่าวน้อย杯子里的水很少
bēizi lǐ de shuǐ hěn shǎo
น้ำในแก้วมีน้อยมาก
我的钱不少
wǒ de qián bù shǎo
เงินของฉันไม่น้อยเลย (เยอะ)
shéiเสยใคร他是谁?
tā shì shéi?
เขาคือใคร
这是谁的书?
zhè shì shéi de shū?
นี่คือหนังสือของใคร
什么shénmeเสินเมอะอะไร你叫什么名字?
nǐ jiào shénme míngzi?
คุณชื่ออะไร
这是什么?
zhè shì shénme?
นี่คืออะไร
shíสือสิบ我有十块钱
wǒ yǒu shí kuài qián
ฉันมีเงินสิบหยวน
现在是十月
xiànzài shì shí yuè
ตอนนี้คือเดือนตุลาคม
时候shíhouสือโฮ่วเมื่อ, ตอนที่你什么时候回家?
nǐ shénme shíhou huí jiā?
คุณจะกลับบ้านเมื่อไหร่
我吃饭的时候,他在看电视
wǒ chīfàn de shíhou, tā zài kàn diànshì
ตอนที่ฉันกินข้าว เขากำลังดูทีวี
shìซื่อเป็น, คือ我是泰国人
wǒ shì Tàiguó rén
ฉันเป็นคนไทย
那是你的杯子吗?
nà shì nǐ de bēizi ma?
นั่นคือแก้วของคุณใช่ไหม
shūซูหนังสือ我喜欢看书
wǒ xǐhuān kàn shū
ฉันชอบอ่านหนังสือ
这本书是谁的?
zhè běn shū shì shéi de?
หนังสือเล่มนี้เป็นของใคร
shuǐสุ่ยน้ำ我想喝水
wǒ xiǎng hē shuǐ
ฉันอยากดื่มน้ำ
杯子里没有水了
bēizi lǐ méiyǒu shuǐ le
ในแก้วไม่มีน้ำแล้ว
水果shuǐguǒสุ่ยกั่วผลไม้你喜欢吃什么水果?
nǐ xǐhuān chī shénme shuǐguǒ?
คุณชอบกินผลไม้อะไร
我买了一些水果
wǒ mǎi le yìxiē shuǐguǒ
ฉันซื้อผลไม้มาจำนวนหนึ่ง
睡觉shuìjiàoสุ้ยเจี้ยวนอนหลับ我要去睡觉了
wǒ yào qù shuìjiào le
ฉันจะไปนอนแล้ว
他在睡觉呢
tā zài shuìjiào ne
เขากำลังนอนหลับอยู่
说话shuōhuàซัวฮว่าพูดคุย请不要说话
qǐng búyào shuōhuà
กรุณาอย่าพูดคุย
他在和朋友说话
tā zài hé péngyou shuōhuà
เขากำลังพูดคุยกับเพื่อน
ซื่อสี่我家有四口人
wǒ jiā yǒu sì kǒu rén
บ้านฉันมีสี่คน
现在四点了
xiànzài sì diǎn le
ตอนนี้สี่โมงแล้ว
suìสุ้ยขวบ, ปี (อายุ)我女儿五岁了
wǒ nǚ’ér wǔ suì le
ลูกสาวของฉันห้าขวบแล้ว
你今年多大岁数了?
nǐ jīnnián duō dà suìshu le?
ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้ว
ทาเขา (ผู้ชาย)他是我的朋友
tā shì wǒ de péngyou
เขาเป็นเพื่อนของฉัน
我不认识他
wǒ bú rènshi tā
ฉันไม่รู้จักเขา
ทาเขา (ผู้หญิง)她是我的老师
tā shì wǒ de lǎoshī
หล่อนเป็นคุณครูของฉัน
她叫什么名字?
tā jiào shénme míngzi?
หล่อนชื่ออะไร
tàiไท่…เกินไป太热了!
tài rè le!
ร้อนเกินไปแล้ว
这件衣服太大了
zhè jiàn yīfu tài dà le
เสื้อตัวนี้ใหญ่เกินไป
天气tiānqìเทียนชี่อากาศ今天天气很好
jīntiān tiānqì hěn hǎo
วันนี้อากาศดีมาก
明天天气怎么样?
míngtiān tiānqì zěnmeyàng?
พรุ่งนี้อากาศเป็นอย่างไร
tīngทิงฟัง我喜欢听音乐
wǒ xǐhuān tīng yīnyuè
ฉันชอบฟังเพลง
请听我说
qǐng tīng wǒ shuō
กรุณาฟังฉันพูด
同学tóngxuéถงเสวียเพื่อนนักเรียน他是我的同学
tā shì wǒ de tóngxué
เขาเป็นเพื่อนนักเรียนของฉัน
我们都是同学
wǒmen dōu shì tóngxué
พวกเราล้วนเป็นเพื่อนนักเรียนกัน
wèiเว่ยฮัลโหล,你好!
wèi, nǐ hǎo!
ฮัลโหล สวัสดีครับ/ค่ะ
,请问是王老师吗?
wèi, qǐngwèn shì Wáng lǎoshī ma?
ฮัลโหล ขอถามหน่อยใช่คุณครูหวังไหม
หว่อฉัน我叫大卫
wǒ jiào Dàwèi
ฉันชื่อเดวิด
我是学生
wǒ shì xuésheng
ฉันเป็นนักเรียน
我们wǒmenหว่อเมินพวกเรา我们都是好朋友
wǒmen dōu shì hǎo péngyou
พวกเราล้วนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
我们去看电影吧
wǒmen qù kàn diànyǐng ba
พวกเราไปดูหนังกันเถอะ
อู่ห้า我有五个苹果
wǒ yǒu wǔ ge píngguǒ
ฉันมีแอปเปิ้ลห้าผล
现在五点了
xiànzài wǔ diǎn le
ตอนนี้ห้าโมงแล้ว
喜欢xǐhuānสี่ฮวานชอบ我喜欢喝茶
wǒ xǐhuān hē chá
ฉันชอบดื่มชา
你喜欢他吗?
nǐ xǐhuān tā ma?
คุณชอบเขาไหม
xiàเซี่ยล่าง, ลง猫在桌子下
māo zài zhuōzi xià
แมวอยู่ใต้โต๊ะ
我们下星期见
wǒmen xià xīngqī jiàn
พวกเราเจอกันสัปดาห์หน้า
下午xiàwǔเซี่ยอู่ตอนบ่าย我下午三点回家
wǒ xiàwǔ sān diǎn huí jiā
ฉันกลับบ้านตอนบ่ายสามโมง
下午好!
xiàwǔ hǎo!
สวัสดีตอนบ่าย
下雨xià yǔเซี่ย อวี่ฝนตก今天下雨了
jīntiān xià yǔ le
วันนี้ฝนตกแล้ว
明天会不会下雨?
míngtiān huì bu huì xià yǔ?
พรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่ตก
先生xiānshengเซียนเซิงคุณผู้ชาย李先生在家吗?
Lǐ xiānsheng zài jiā ma?
คุณหลี่อยู่บ้านไหม
这是我先生
zhè shì wǒ xiānsheng
นี่คือสามีของฉัน
现在xiànzàiเสี้ยนจ้ายตอนนี้你现在在哪儿?
nǐ xiànzài zài nǎr?
ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
现在几点了?
xiànzài jǐ diǎn le?
ตอนนี้กี่โมงแล้ว
xiǎngเสี่ยงคิด, อยาก我想回家
wǒ xiǎng huí jiā
ฉันอยากกลับบ้าน
你在想什么?
nǐ zài xiǎng shénme?
คุณกำลังคิดอะไรอยู่
xiǎoเสี่ยวเล็ก这只小猫很可爱
zhè zhī xiǎo māo hěn kě’ài
ลูกแมวตัวนี้เล็กและน่ารักมาก
我的房间很小
wǒ de fángjiān hěn xiǎo
ห้องของฉันเล็กมาก
小姐xiǎojiěเสียวเจี่ยคุณผู้หญิง王小姐,你好
Wáng xiǎojiě, nǐ hǎo
สวัสดีครับคุณหวัง
这位是张小姐
zhè wèi shì Zhāng xiǎojiě
ท่านนี้คือคุณจาง
xiēเซียบ้าง我买了一些水果
wǒ mǎi le yìxiē shuǐguǒ
ฉันซื้อผลไม้มาจำนวนหนึ่ง
这些书都是我的
zhèxiē shū dōu shì wǒ de
หนังสือเหล่านี้ล้วนเป็นของฉัน
xiěเสี่ยเขียน你会写汉字吗?
nǐ huì xiě Hànzì ma?
คุณเขียนอักษรจีนเป็นไหม
请写你的名字
qǐng xiě nǐ de míngzi
กรุณาเขียนชื่อของคุณ
谢谢xièxieเซี่ยเซียขอบคุณ谢谢你!
xièxie nǐ!
ขอบคุณ
我要谢谢我的老师
wǒ yào xièxie wǒ de lǎoshī
ฉันอยากจะขอบคุณคุณครูของฉัน
星期xīngqīซิงชีสัปดาห์今天星期几?
jīntiān xīngqī jǐ?
วันนี้วันอะไร
一个星期有七天
yí ge xīngqī yǒu qī tiān
หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน
学生xuéshengเสวียเซิงนักเรียน我是学生
wǒ shì xuésheng
ฉันเป็นนักเรียน
我们班有二十个学生
wǒmen bān yǒu èrshí ge xuésheng
ห้องเรียนของพวกเรามีนักเรียนยี่สิบคน
学习xuéxíเสวียสีเรียน我喜欢学习汉语
wǒ xǐhuān xuéxí Hànyǔ
ฉันชอบเรียนภาษาจีน
你在哪儿学习?
nǐ zài nǎr xuéxí?
คุณเรียนอยู่ที่ไหน
学校xuéxiàoเสวียเสี้ยวโรงเรียน这是我们的学校
zhè shì wǒmen de xuéxiào
นี่คือโรงเรียนของพวกเรา
我坐车去学校
wǒ zuòchē qù xuéxiào
ฉันนั่งรถไปโรงเรียน
อีหนึ่ง我有一个女儿
wǒ yǒu yí ge nǚ’ér
ฉันมีลูกสาวหนึ่งคน
这本书一块钱
zhè běn shū yí kuài qián
หนังสือเล่มนี้ราคาหนึ่งหยวน
衣服yīfuอีฝุเสื้อผ้า我喜欢这件衣服
wǒ xǐhuān zhè jiàn yīfu
ฉันชอบเสื้อผ้าตัวนี้
我买了很多新衣服
wǒ mǎi le hěn duō xīn yīfu
ฉันซื้อเสื้อผ้าใหม่มาเยอะมาก
医生yīshēngอีเซิงหมอ他爸爸是医生
tā bàba shì yīshēng
พ่อของเขาเป็นหมอ
我想去看医生
wǒ xiǎng qù kàn yīshēng
ฉันอยากไปหาหมอ
医院yīyuànอีเยวี่ยนโรงพยาบาล医院在哪儿?
yīyuàn zài nǎr?
โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน
我妈妈在医院工作
wǒ māma zài yīyuàn gōngzuò
แม่ของฉันทำงานที่โรงพยาบาล
椅子yǐziอี่จึเก้าอี้这儿有一把椅子
zhèr yǒu yì bǎ yǐzi
ที่นี่มีเก้าอี้หนึ่งตัว
请坐在这把椅子上
qǐng zuò zài zhè bǎ yǐzi shàng
เชิญนั่งบนเก้าอี้ตัวนี้
yǒuโหย่วมี我有一个哥哥
wǒ yǒu yí ge gēge
ฉันมีพี่ชายหนึ่งคน
你有钱吗?
nǐ yǒu qián ma?
คุณมีเงินไหม
yuèเยว่เดือน今天是八月三号
jīntiān shì bā yuè sān hào
วันนี้คือวันที่สามเดือนสิงหาคม
一年有十二个月
yì nián yǒu shí’èr ge yuè
หนึ่งปีมีสิบสองเดือน
再见zàijiànไจ้เจี้ยนลาก่อน老师再见!
lǎoshī, zàijiàn!
ลาก่อนครับ/ค่ะ คุณครู
明天见,再见!
míngtiān jiàn, zàijiàn!
พรุ่งนี้เจอกัน ลาก่อน
zàiไจ้อยู่ที่, กำลัง我在家
wǒ zài jiā
ฉันอยู่ที่บ้าน
我在看书呢
wǒ zài kàn shū ne
ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่
怎么zěnmeเจิ่นเมอะอย่างไร这个汉字怎么读?
zhège Hànzì zěnme dú?
อักษรจีนตัวนี้อ่านอย่างไร
你怎么去学校?
nǐ zěnme qù xuéxiào?
คุณไปโรงเรียนอย่างไร
怎么样zěnmeyàngเจิ่นเมอะย่างเป็นอย่างไร今天天气怎么样?
jīntiān tiānqì zěnmeyàng?
วันนี้อากาศเป็นอย่างไรบ้าง
这件衣服怎么样?
zhè jiàn yīfu zěnmeyàng?
เสื้อตัวนี้เป็นอย่างไรบ้าง
zhèเจ้อนี่, นี้这是什么?
zhè shì shénme?
นี่คืออะไร
这本书很好看
zhè běn shū hěn hǎokàn
หนังสือเล่มนี้สนุกมาก
中国Zhōngguóจงกั๋วประเทศจีน我爱中国
wǒ ài Zhōngguó
ฉันรักประเทศจีน
我想去中国学习汉语
wǒ xiǎng qù Zhōngguó xuéxí Hànyǔ
ฉันอยากไปเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีน
中午zhōngwǔจงอู่ตอนเที่ยง我们中午吃米饭
wǒmen zhōngwǔ chī mǐfàn
ตอนเที่ยงพวกเรากินข้าวสวย
中午好!
zhōngwǔ hǎo!
สวัสดีตอนเที่ยง
zhùจู้อาศัยอยู่你住在哪儿?
nǐ zhù zài nǎr?
คุณอาศัยอยู่ที่ไหน
我住在中国
wǒ zhù zài Zhōngguó
ฉันอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน
桌子zhuōziจัวจึโต๊ะ桌子上有一本书
zhuōzi shàng yǒu yì běn shū
บนโต๊ะมีหนังสือหนึ่งเล่ม
这是我的桌子
zhè shì wǒ de zhuōzi
นี่คือโต๊ะของฉัน
จื้อตัวอักษร这个字怎么写?
zhège zì zěnme xiě?
อักษรตัวนี้เขียนอย่างไร
我认识这个字
wǒ rènshi zhège zì
ฉันรู้จักอักษรตัวนี้
昨天zuótiānจั๋วเทียนเมื่อวาน你昨天去哪儿了?
nǐ zuótiān qù nǎr le?
เมื่อวานคุณไปไหนมา
昨天天气很热
zuótiān tiānqì hěn rè
เมื่อวานอากาศร้อนมาก
zuòจั้วนั่ง请坐
qǐng zuò
เชิญนั่ง
我坐出租车回家
wǒ zuò chūzūchē huí jiā
ฉันนั่งแท็กซี่กลับบ้าน
zuòจั้วทำ你在做什么?
nǐ zài zuò shénme?
คุณกำลังทำอะไรอยู่
我妈妈会做饭
wǒ māma huì zuòfàn
แม่ของฉันทำอาหารเป็น

You may also like