เจาะลึกไวยากรณ์ HSK 4

by admin

 

 

 

สวัสดีนักเรียนที่รักของเหล่าซือทุกคนครับ!

ยินดีต้อนรับสู่ HSK 4 อย่างเป็นทางการ! เหล่าซือรู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นไปกับทุกคนจริงๆ ที่เดินทางมาถึงจุดนี้ได้ การสอบผ่าน HSK 3 นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและความรักในภาษาจีนของพวกเราทุกคน

หากนักเรียนยังจำได้ เหล่าซือเคยเปรียบเปรยการเรียนภาษาจีนของเราเหมือนการสร้างบ้าน HSK 1 คือการสะสม “ก้อนอิฐ” (คำศัพท์พื้นฐาน) HSK 2 คือการนำอิฐเหล่านั้นมาเรียงกันเป็น “กำแพง” (ประโยคง่ายๆ) และ HSK 3 คือการ “ตกแต่งภายใน” (การใช้ไวยากรณ์ที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อสื่อสารเรื่องราวในชีวิตประจำวัน) ตอนนี้ “บ้าน” ของเราสร้างเสร็จแล้ว เราอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายใจ สามารถพูดคุยเรื่องทั่วไปได้คล่องแคล่ว

แล้ว HSK 4 คืออะไรล่ะ?

HSK 4 คือก้าวต่อไป คือการที่เราจะเปิดประตูบ้านออกไปสู่โลกภายนอกครับ มันคือ “การจัดสวน วางระบบสาธารณูปโภค และตั้งป้ายเลขที่บ้าน

  • การจัดสวน : เราจะเรียนรู้วิธีทำให้ภาษาของเรา “สวยงาม” และ “สละสลวย” ด้วยโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนและงดงามยิ่งขึ้น
  • การวางระบบสาธารณูปโภค : เราจะติดตั้ง “ท่อน้ำและสายไฟ” ให้กับภาษาของเรา นั่นคือการใช้คำเชื่อมต่างๆ เพื่อร้อยเรียงประโยคให้มีเหตุมีผล มีตรรกะ ทำให้ความคิดของเราไหลลื่นเหมือนน้ำและไฟฟ้า
  • การตั้งป้ายเลขที่บ้าน : เราจะทำให้ภาษาของเรา “เป็นทางการ” มากขึ้น เพื่อให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัท หัวหน้า หรือคนที่เราอ่านเจอในข่าวและบทความ สามารถ “ค้นหา” และ “เข้าใจ” ความคิดที่ลึกซึ้งของเราได้อย่างแม่นยำ

ในบทความนี้ เหล่าซือจะพานักเรียนทุกคนไปเจาะลึกพิมพ์เขียวของ HSK 4 เราจะมาทำความเข้าใจหัวใจของไวยากรณ์ระดับสูงเหล่านี้ ไม่ใช่แค่การท่องจำ แต่เป็นการ “รู้สึก” ถึงมัน เพื่อให้นักเรียนสามารถหยิบไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและมั่นใจ พร้อมจะก้าวไปสู่โลกใบใหม่ของภาษาจีนกันหรือยังครับ? ถ้าพร้อมแล้ว…ไปกันเลย!

 

หัวใจของการเชื่อมความ

ในส่วนนี้ เราจะมาเรียนรู้การเป็น “สถาปนิกทางภาษา” กันครับ เราจะมาวางระบบสาธารณูปโภค หรือก็คือ “คำเชื่อม” ที่เป็นเหมือนท่อและสายไฟให้กับบ้านภาษาจีนของเรา คำเชื่อมเหล่านี้จะทำให้ประโยคเดี่ยวๆ ที่เราเคยสร้างใน HSK 3 สามารถเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อน มีเหตุมีผล และทรงพลังมากขึ้น

ไม่เพียงแต่…อีกทั้งยัง… ด้วย 不但而且… (búdàn…érqiě…)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อเชื่อมสองประโยคย่อยที่มีความหมายคล้อยตามกัน โดยประโยคหลังมักจะมีความสำคัญหรือแสดงระดับที่สูงกว่าประโยคแรก

สูตรโครงสร้าง:

不但 + (ประโยคย่อย 1), 而且 + (ประโยคย่อย 2)

คำอธิบายเชิงลึก:

“ความรู้สึก” ของโครงสร้างนี้ไม่ใช่แค่การบอกว่า “และ” ( hé) แต่มันคือการบอกว่า “ไม่เพียงแค่นั้นนะ แต่ยังมีอะไรที่มัน ‘เหนือกว่า’ หรือ ‘สำคัญกว่า’ อีก” 不但而且 (búdàn…érqiě…) สิ่งที่ตามหลัง 而且 érqiě มักจะเป็นประเด็นที่ผู้พูดต้องการเน้นย้ำมากกว่าเสมอ ลองนึกภาพว่าเรากำลังแนะนำเพื่อนให้คนอื่นรู้จัก ถ้าเราพูดว่า “เขาหล่อและเรียนเก่ง” มันก็เป็นแค่การบอกคุณสมบัติสองอย่าง แต่ถ้าเราพูดว่า “เขาไม่เพียงแต่หล่อ อีกทั้งยังเรียนเก่งอีกด้วย” น้ำหนักจะเทไปที่ “ความเรียนเก่ง” ทันที นี่คือพลังของการใช้โครงสร้างนี้ในการชี้นำความคิดของผู้ฟังครับ

ตัวอย่างประโยค:

  • 他不但足球踢得好,而且性格也很好。
    Tā búdàn zúqiú tī de hǎo, érqiě xìnggé yě hěn hǎo.
    เขาไม่เพียงแต่เตะฟุตบอลเก่ง อีกทั้งนิสัยยังดีมากอีกด้วย
  • 这部电影不但内容精彩,而且教育意义也很深。
    Zhè bù diànyǐng búdàn nèiróng jīngcǎi, érqiě jiàoyù yìyì yě hěn shēn.
    ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เนื้อหาน่าตื่นเต้น อีกทั้งยังมีความหมายในเชิงการศึกษาที่ลึกซึ้งอีกด้วย
  • 使用这种新材料不但能减少污染,而且还能降低成本。
    Shǐyòng zhè zhǒng xīn cáiliào búdàn néng jiǎnshǎo wūrǎn, érqiě hái néng jiàngdī chéngběn.
    การใช้วัสดุชนิดใหม่นี้ไม่เพียงแต่สามารถลดมลพิษได้ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนได้อีกด้วย

 

ขอเพียงแค่…ก็จะ… ด้วย 只要… (zhǐyào…jiù…)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อบอก “เงื่อนไขที่เพียงพอ” หมายความว่าขอแค่เงื่อนไขแรกเกิดขึ้น ผลลัพธ์ที่สองก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

สูตรโครงสร้าง:

只要 + (เงื่อนไข), + (ผลลัพธ์)

คำอธิบายเชิงลึก:

นักเรียนคงคุ้นเคยกับ 如果… (rúguǒ…jiù…) (ถ้า…ก็…) จากระดับก่อนๆ ใช่ไหมครับ 如果 rúguǒ เป็นแค่การสมมติแบบกลางๆ ว่า “ถ้าเกิด A ก็จะเกิด B” แต่ 如果… นั้นมีความหมายที่หนักแน่นและมั่นใจกว่ามาก “ความรู้สึก” ของมันคือ “ไม่ต้องมีเงื่อนไขอื่นเลย ขอแค่มีสิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้น ทุกอย่างจบ ผลลัพธ์เกิดขึ้นแน่นอน” มันเป็นการแสดงความมั่นใจและใช้ในการโน้มน้าวได้ดีเยี่ยมเลยครับ

ตัวอย่างประโยค:

  • 只要你努力学习,就一定能通过考试。
    Zhǐyào nǐ nǔlì xuéxí, jiù yídìng néng tōngguò kǎoshì.
    ขอเพียงแค่เธอขยันเรียน ก็จะสามารถสอบผ่านได้อย่างแน่นอน
  • 只要有你在,我就什么都不怕。
    Zhǐyào yǒu nǐ zài, wǒ jiù shénme dōu bú pà.
    ขอเพียงแค่มีเธออยู่ ฉันก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
  • 只要我们坚持下去,就一定能看到希望。
    Zhǐyào wǒmen jiānchí xiàqù, jiù yídìng néng kàndào xīwàng.
    ขอเพียงแค่พวกเรายืนหยัดต่อไป ก็จะมองเห็นความหวังได้อย่างแน่นอน

 

มีเพียง…เท่านั้นจึงจะ…  ด้วย 只有……  (zhǐyǒu…cái…)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อบอก “เงื่อนไขที่จำเป็นและต้องมีเพียงหนึ่งเดียว” หมายความว่าต้องมีเงื่อนไขนี้เท่านั้น ผลลัพธ์จึงจะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีเงื่อนไขนี้ ผลลัพธ์ก็ไม่มีทางเกิด

สูตรโครงสร้าง:

只有 + (เงื่อนไขเดียวที่จำเป็น), + (ผลลัพธ์)

คำอธิบายเชิงลึก:

ถ้า 只要 (zhǐyào…jiù…) คือประตูที่เปิดกว้าง ขอแค่มีกุญแจดอกไหนก็ได้มาไข แต่ 只有… (zhǐyǒu…cái…) คือประตูที่มีเพียงรูกุญแจเดียว และต้องใช้กุญแจดอกที่ถูกต้อง “เท่านั้น” จึงจะเปิดได้ “ความรู้สึก” ของมันคือความเข้มงวด ความพิเศษ และการจำกัดขอบเขต คำว่า (cái) เองก็ให้ความรู้สึกว่ามันยากหรือมีเงื่อนไขเยอะอยู่แล้ว พอมาคู่กับ 只有 (zhǐyǒu) ก็ยิ่งเน้นย้ำว่า “ไม่มีทางอื่น นอกจากทางนี้เท่านั้น”

ตัวอย่างประโยค:

  • 只有努力工作,才能获得成功。
    Zhǐyǒu nǔlì gōngzuò, cái néng huòdé chénggōng.
    มีเพียงการทำงานอย่างหนักเท่านั้น จึงจะได้รับความสำเร็จ
  • 只有亲身经历,你才能真正理解其中的困难。
    Zhǐyǒu qīnshēn jīnglì, nǐ cái néng zhēnzhèng lǐjiě qízhōng de kùnnan.
    มีเพียงการประสบด้วยตนเองเท่านั้น เธอจึงจะเข้าใจถึงความยากลำบากในนั้นได้อย่างแท้จริง
  • 只有拿到医生的许可,他才可以出院。
    Zhǐyǒu ná dào yīshēng de xǔkě, tā cái kěyǐ chūyuàn.
    มีเพียงต้องได้รับการอนุญาตจากหมอเท่านั้น เขาจึงจะออกจากโรงพยาบาลได้

เปรียบเทียบ: 只要… vs 只有…

นี่คือจุดที่นักเรียนสับสนบ่อยที่สุดครับ มาดูตารางนี้ให้เข้าใจแจ่มแจ้งกันไปเลย

โครงสร้างเงื่อนไขความรู้สึก / นัยตัวอย่างและคำแปล
只要เงื่อนไขเดียวก็พอ
แค่มีเงื่อนไขนี้ก็เกิดผลได้ อาจมีเงื่อนไขอื่นที่ทำให้เกิดผลเหมือนกันได้
ง่าย, มั่นใจ, เปิดกว้าง只要你来,我们就欢迎。
Zhǐyào nǐ lái, wǒmen jiù huānyíng.
(ขอเพียงแค่คุณมา เราก็ยินดีต้อนรับแล้ว – ใครมาเราก็ต้อนรับ)
只有…เงื่อนไขเดียวเท่านั้น
ต้องมีเงื่อนไขนี้เท่านั้นจึงจะเกิดผล ไม่มีทางเลือกอื่น
ยาก, เข้มงวด, จำกัด只有你来,我们才开会。
Zhǐyǒu nǐ lái, wǒmen cái kāihuì.
(มีเพียงคุณมาเท่านั้น เราถึงจะประชุม – ถ้าคุณไม่มา ก็ไม่ประชุม)

 

ไม่ว่าจะ…ก็ตาม… ด้วย 无论…/…  (wúlùn…dōu/yě…)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อแสดงว่าไม่ว่าเงื่อนไข (ที่ครอบคลุมทุกความเป็นไปได้) จะเป็นอย่างไร ผลลัพธ์ก็จะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มักใช้ในภาษาเขียนหรือสถานการณ์ที่เป็นทางการ

สูตรโครงสร้าง:

无论 + (เงื่อนไขแบบมีตัวเลือก หรือ คำถาม), / + (ผลลัพธ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง)

คำอธิบายเชิงลึก:

无论 (wúlùn) ให้ความรู้สึกเหมือนการกางรายการทั้งหมดออกมาให้ดู มันครอบคลุมทุกทางเลือกที่เป็นไปได้ เช่น “ไม่ว่าจะเป็น A หรือ B”, “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”, “ไม่ว่าใครจะมา” ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอ โครงสร้างนี้จึงเหมาะกับการใช้ในบริบทที่เป็นทางการที่ต้องการความชัดเจนและครอบคลุม ส่วนความแตกต่างระหว่าง กับ นั้นลึกซึ้งมากครับ: dōu () มักจะใช้เพื่อสรุปรวมทั้งหมด ในขณะที่ yě () มักจะใช้เพื่อเน้นกรณีที่สุดโต่ง เพื่อบอกเป็นนัยว่าขนาดกรณีนี้ยังเป็นแบบนี้ กรณีอื่นก็ย่อมเป็นเหมือนกัน

ตัวอย่างประโยค:

  • 无论明天天气如何,我们都必须按时出发。
    Wúlùn míngtiān tiānqì rúhé, wǒmen dōu bìxū ànshí chūfā.
    ไม่ว่าพรุ่งนี้อากาศจะเป็นอย่างไร พวกเราก็ต้องออกเดินทางตรงเวลา (ใช้ (dōu) เพื่อสรุปรวมทุกสภาพอากาศ)
  • 无论工作多忙,他都会抽时间陪家人。
    Wúlùn gōngzuò duō máng, tā dōu huì chōu shíjiān péi jiārén.
    ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน เขาก็จะหาเวลามาอยู่กับครอบครัวเสมอ
  • 无论你遇到什么困难,也别放弃希望。
    Wúlùn nǐ yùdào shénme kùnnan, yě bié fàngqì xīwàng.
    ไม่ว่าเธอจะเจอกับความยากลำบากอะไร ก็อย่าได้หมดหวัง (ใช้ (yě) เพื่อเน้นว่า “แม้แต่” ความลำบากที่สุดก็อย่าทิ้งความหวัง)

 

(เพื่อเปรียบเทียบ) ไม่ว่า…ก็ตาม… ด้วย  不管…/…  (bùguǎn…dōu/yě…)

คำอธิบายหลักการ: มีความหมายคล้ายกับ 无论 (wúlùn) แต่ใช้ในภาษาพูดมากกว่า และให้ความรู้สึกเป็นกันเองกว่า

สูตรโครงสร้าง:

不管 + (เงื่อนไขแบบมีตัวเลือก หรือ คำถาม), / + (ผลลัพธ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง)

คำอธิบายเชิงลึก:

ถ้า 无论 (wúlùn) คือการพูดแบบทางการว่า “Irrespective of all factors…” (โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยทั้งหมด…) 不管 (bùguǎn) จะให้ความรู้สึกเหมือนพูดว่า “I don’t care if…” (ฉันไม่สนว่า…) มันมีความเป็นกันเองและใช้เพื่อปัดความกังวลในบทสนทนามากกว่า มักจะเจอในภาษาพูดในชีวิตประจำวันครับ

ตัวอย่างประโยค:

  • 不管你同意不同意,我都要这么做。
    Bùguǎn nǐ tóngyì bù tóngyì, wǒ dōu yào zhème zuò.
    ไม่ว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ฉันก็จะทำแบบนี้
  • 不管你说什么,我都不会相信他了。
    Bùguǎn nǐ shuō shénme, wǒ dōu bú huì xiāngxìn tā le.
    ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ฉันก็จะไม่เชื่อเขาอีกแล้ว
  • 不管多晚,妈妈都会等我回家。
    Bùguǎn duō wǎn, māma dōu huì děng wǒ huíjiā.
    ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน แม่ก็จะรอฉันกลับบ้านเสมอ

ตารางเปรียบเทียบ: 无论…/… vs 不管…/

โครงสร้างระดับภาษาความรู้สึก / นัยบริบทที่ใช้
无论…/เป็นทางการครอบคลุมทุกความเป็นไปได้, เป็นกลางภาษาเขียน, การประกาศ, การพูดที่เป็นทางการ
不管…/ภาษาพูดไม่สนใจ, ไม่แคร์, เป็นกันเองบทสนทนาในชีวิตประจำวัน

 ใส่ “อารมณ์และความรู้สึก” ให้ประโยค

ถ้า Part 1 คือการวางโครงสร้างและตรรกะ Part 2 ก็คือการใส่ “เครื่องเทศ” หรือ “สีสัน” ให้กับภาษาของเราครับ คำวิเศษณ์ เหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนความหมายหลักของประโยค แต่มันจะเผยให้เห็น “ทัศนคติ” และ “ความรู้สึก” ของผู้พูด ไม่ว่าจะเป็นความประหลาดใจ, ความสงสัย, หรือความแน่วแน่ การใช้คำเหล่านี้เป็น คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ภาษาของเรามีชีวิตชีวาขึ้นมาจริงๆ

คาดไม่ถึงเลยว่า… ด้วย 竟然  (jìngrán)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อแสดงความประหลาดใจหรือคาดไม่ถึงของผู้พูด ต่อเหตุการณ์หรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขัดกับความคาดหมายหรือตรรกะปกติ

สูตรโครงสร้าง:

ประธาน + 竟然 + กริยา/คุณศัพท์

คำอธิบายเชิงลึก:

竟然 (jìngrán) คือคำอุทานในใจที่หลุดออกมาเป็นคำพูดครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความจริง แต่การใส่ 竟然 (jìngrán) เข้าไปเปรียบเสมือนการใส่ฟิลเตอร์ “ไม่อยากจะเชื่อ!” เข้าไปในประโยคนั้นทันที เช่น ประโยคว่า 他来了 (Tā lái le – เขามาแล้ว) เป็นแค่การบอกข้อเท็จจริง แต่ถ้าเราพูดว่า 他竟然来了 (Tā jìngrán lái le – เขามาเฉยเลย/คาดไม่ถึงว่าเขาจะมา) มันแสดงว่าการมาของเขาเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับเรา นี่คือเครื่องมือชั้นยอดในการเล่าเรื่องและแสดงอารมณ์ครับ

ตัวอย่างประโยค:

  • 这么简单的问题,他竟然回答不出来。
  • Zhème jiǎndān de wèntí, tā jìngrán huídá bu chūlai.
  • คำถามง่ายขนาดนี้ เขาตอบไม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
  • 我们好久没联系了,他竟然还记得我的生日。
  • Wǒmen hǎojiǔ méi liánxì le, tā jìngrán hái jìde wǒ de shēngrì.
  • พวกเราไม่ได้ติดต่อกันนานมาก เขายังจำวันเกิดของฉันได้
  • 外面下着大雨,他竟然没带伞就出门了。
  • Wàimian xià zhe dà yǔ, tā jìngrán méi dài sǎn jiù chūmén le.
  • ข้างนอกฝนตกหนักขนาดนั้น เขาไม่พกร่มแล้วออกจากบ้านไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

หรือว่า…กันนะ? ด้วย  难道  (nándào)

คำอธิบายหลักการ: ใช้ในประโยคคำถามเชิงวาทศิลป์ เพื่อแสดงความสงสัย, การคาดเดา, หรือการย้อนถามด้วยความประหลาดใจ ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงๆ

สูตรโครงสร้าง:

难道 + (สิ่งที่เราสงสัย/ย้อนถาม) +…?

คำอธิบายเชิงลึก:

เมื่อนักเรียนเห็นเครื่องหมายคำถาม (?) ก็มักจะคิดว่าต้องตอบใช่ไหมครับ แต่สำหรับ 难道 (nándào) นั้นไม่ใช่เลย มันคือเครื่องมือในการโต้เถียงหรือแสดงอารมณ์ “ความรู้สึก” ของมันคือ “เป็นไปได้อย่างไร?” หรือ “นี่เธอไม่รู้จริงๆ เหรอ?” เช่น เพื่อนทำแก้วแตกแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เราอาจจะพูดว่า 难道不是你做的吗? (Nándào bú shì nǐ zuò de ma? – หรือว่าจะไม่ใช่ฝีมือเธอกันล่ะ?) เราไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบ แต่เรากำลังกล่าวหาเขาในรูปแบบคำถามนั่นเอง

ตัวอย่างประโยค:

  • 你花了一个月工资买这条裙子,难道不觉得太贵了吗?
    Nǐ huā le yí ge yuè gōngzī mǎi zhè tiáo qúnzi, nándào bù juéde tài guì le ma?
    เธอใช้เงินเดือนทั้งเดือนซื้อกระโปรงตัวนี้ หรือว่าไม่รู้สึกว่ามันแพงไปหน่อยเหรอ?
  • 这么重要的会议,他怎么迟到了?难道他忘记了吗?
    Zhème zhòngyào de huìyì, tā zěnme chídào le? Nándào tā wàngjì le ma?
    ประชุมสำคัญขนาดนี้ ทำไมเขาสายได้? หรือว่าเขาลืมไปแล้วกันนะ?
  • 大家都反对这个计划,难道你还要坚持吗?
    Dàjiā dōu fǎnduì zhège jìhuà, nándào nǐ hái yào jiānchí ma?
    ทุกคนต่างก็คัดค้านแผนนี้ หรือว่าเธอยังจะยืนกรานจะทำอีกเหรอ?

 

อย่างไรก็ตาม / ยังไงซะ… ด้วย  反正  (fǎnzhèng)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อแสดงการไม่ใส่ใจต่อเงื่อนไขที่พูดมาก่อนหน้า หรือใช้เพื่อบอกเหตุผลหลักที่ทำให้เรื่องอื่นๆ ไม่สำคัญอีกต่อไป

สูตรโครงสร้าง:

(เงื่อนไข/สถานการณ์), 反正 + (การตัดสินใจ/ผลลัพธ์)

หรือ

反正 + (เหตุผลหลัก), (การตัดสินใจ/ข้อเสนอแนะ)

คำอธิบายเชิงลึก:

反正 (fǎnzhèng) เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในภาษาพูด และมีประโยชน์สุดๆ มันมี 2 อารมณ์หลักๆ คือ:

  • อารมณ์ปัดทิ้ง (Dismissal): ใช้เหมือนคำว่า “anyway” หรือ “regardless” ในภาษาอังกฤษ เพื่อบอกว่า “ไม่ว่าเรื่องที่พูดมาก่อนหน้านี้จะเป็นยังไงก็ตาม ฉันก็จะ…
  • อารมณ์ให้เหตุผลปิดท้าย : ใช้เพื่อบอกเหตุผลที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้การตัดสินใจนั้นสมเหตุสมผล เหมือนพูดว่า “ก็ในเมื่อ…อยู่แล้ว ก็ทำแบบนี้ไปเลยแล้วกัน

ตัวอย่างประโยค:

  • 不管你去不去,反正我要去。
    Bùguǎn nǐ qù bu qù, fǎnzhèng wǒ yào qù.
    ไม่ว่าเธอจะไปหรือไม่ไป อย่างไรซะฉันก็จะไป (อารมณ์ปัดทิ้ง)
  • 别担心了,反正问题已经解决了。
    Bié dānxīn le, fǎnzhèng wèntí yǐjīng jiějué le.
    ไม่ต้องกังวลแล้ว ยังไงซะปัญหาก็ถูกแก้ไขไปแล้ว (อารมณ์ให้เหตุผลปิดท้าย)
  • 现在出门可能来不及了,反正明天再去也一样。
    Xiànzài chūmén kěnéng láibují le, fǎnzhèng míngtiān zài qù yě yíyàng.
    ตอนนี้ออกไปอาจจะไปไม่ทันแล้ว ยังไงซะพรุ่งนี้ค่อยไปก็เหมือนกัน (ผสมทั้งสองอารมณ์)

เจาะลึก “บทเสริม” ทุกมิติ

ยินดีต้อนรับสู่หนึ่งในหัวข้อที่ท้าทาย แต่ก็ทรงพลังที่สุดในภาษาจีนครับ นั่นคือ “บทเสริมบอกความเป็นไปได้”  ถ้าบทเสริมบอกผล ที่เราเรียนใน HSK 3 ตอบคำถามว่า “การกระทำนั้นได้ผลลัพธ์อะไร?” (听懂了 – tīng dǒng le – ฟังเข้าใจแล้ว) บทเสริมบอกความเป็นไปได้จะตอบคำถามว่า “ผลลัพธ์นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่?” (听得懂 – tīng de dǒng – ฟังเข้าใจได้ / 听不懂 – tīng bu dǒng – ฟังไม่เข้าใจ)

หลักการพื้นฐานของบทเสริมบอกความเป็นไปได้

หัวใจของมันคือการเอา “บทเสริมบอกผล” หรือ “บทเสริมบอกทิศทาง” ที่เรารู้จักดี มาใส่ (de) หรือ (bù) คั่นกลางระหว่างคำกริยากับบทเสริมนั้น เพื่อบอกถึง “ความเป็นไปได้” หรือ “ความสามารถที่จะทำให้สำเร็จ” ในสถานการณ์นั้นๆ

โครงสร้างบอกความเป็นไปได้:

Verb + + Complement

  • ความรู้สึก: ทำได้, สามารถทำให้สำเร็จได้
  • 看得清楚 (kàn de qīngchu) – มองเห็นได้ชัดเจน
  • 做得完 (zuò de wán) – ทำเสร็จได้ทัน
  • 上得去 (shàng de qù) – ขึ้นไปได้

โครงสร้างปฏิเสธความเป็นไปได้:

Verb + + Complement

  • ความรู้สึก: ทำไม่ได้, ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้
  • 看不清楚 (kàn bu qīngchu) – มองไม่ชัด
  • 做不完 (zuò bu wán) – ทำไม่เสร็จ
  • 上不去 (shàng bu qù) – ขึ้นไปไม่ได้

ข้อควรจำ: นี่ไม่ใช่การบอกความสามารถทั่วไปแบบ (néng) หรือ 可以 (kěyǐ) นะครับ แต่มันคือการประเมินความเป็นไปได้ ณ สถานการณ์นั้นๆ เช่น

  • ความสามารถทั่วไป:
    我能看懂中文书。
    Wǒ néng kàndǒng Zhōngwén shū.
    (ฉันสามารถอ่านหนังสือภาษาจีนเข้าใจ)
  • ความเป็นไปได้:
    这本书太难了,我看不懂。
    Zhè běn shū tài nán le, wǒ kàn bu dǒng.
    (หนังสือเล่มนี้ยากเกินไป ฉันอ่านไม่เข้าใจ)

 

บทเสริมบอกความเป็นไปได้ที่พบบ่อย

มาดูตัวอย่างที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตจริงกันครับ การเรียนเป็นหมวดหมู่แบบนี้จะช่วยให้นักเรียนจำและนำไปใช้ได้ง่ายขึ้นมาก

ความจุ / พื้นที่: V + /不下 (xià)

ใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการบรรจุหรือการใส่เข้าไป เช่น (กิน), (นั่ง), (วาง), (อาศัย)

  • ตัวอย่าง:
    • 桌子上东西太多了,这个电脑放不下了。
      Zhuōzi shang dōngxi tài duō le, zhège diànnǎo fàng bu xià le.
      บนโต๊ะมีของเยอะเกินไปแล้ว คอมพิวเตอร์เครื่องนี้วางไม่ลงแล้ว
    • 这辆车太小,坐不下六个人。
      Zhè liàng chē tài xiǎo, zuò bu xià liù ge rén.
      รถคันนี้เล็กเกินไป นั่ง 6 คนไม่ได้
    • 我吃饱了,真的吃不下了。
      Wǒ chī bǎo le, zhēnde chī bu xià le.
      ฉันอิ่มแล้ว กินไม่ลงแล้วจริงๆ
ความสามารถในการจ่าย: V + /不起 (qǐ)

ใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการใช้เงิน เช่น (ซื้อ), (กิน), (ใช้), (เช่า)

  • ตัวอย่าง:
    • 这件衣服太贵了,我买不起。
      Zhè jiàn yīfu tài guì le, wǒ mǎi bu qǐ.
      เสื้อผ้าตัวนี้แพงเกินไป ฉันซื้อไม่ไหว
    • 这家饭馆是米其林三星,我们可吃不起。
      Zhè jiā fànguǎn shì mǐqílín sānxīng, wǒmen kě chī bu qǐ.
      ร้านอาหารร้านนี้เป็นมิชลินสามดาว พวกเรากินไม่ไหวหรอกนะ
    • 市中心的房子,我哪儿租得起啊?
      Shìzhōngxīn de fángzi, wǒ nǎr zū de qǐ a?
      บ้านใจกลางเมืองน่ะ ฉันจะไปเช่าไหวได้อย่างไรกัน?
พละกำลัง / แรง: V + /不动 (dòng)

ใช้กับกริยาที่ต้องใช้แรงกาย เช่น (เดิน), (วิ่ง), (ย้าย), (ถือ)

  • ตัวอย่าง:
    • 我太累了,一步也走不动了。
      Wǒ tài lèi le, yí bù yě zǒu bu dòng le.
      ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว ก้าวเดียวก็เดินไม่ไหวแล้ว
    • 这个箱子太重了,我一个人搬不动。
      Zhège xiāngzi tài zhòng le, wǒ yí ge rén bān bu dòng.
      กระเป๋าเดินทางใบนี้หนักเกินไป ฉันคนเดียวย้ายไม่ไหว
    • 爷爷年纪大了,这么硬的东西他咬不动。
      Yéye niánjì dà le, zhème yìng de dōngxi tā yǎo bu dòng.
      คุณปู่อายุมากแล้ว ของแข็งขนาดนี้ท่านเคี้ยวไม่ไหว
การทำให้สำเร็จ: V + /不了 (liǎo)

ในที่นี้อ่านว่า liǎo เป็นบทเสริมที่ครอบจักรวาลมาก หมายถึง “สามารถทำให้เสร็จ/จบ/ลุล่วงได้หรือไม่” มักใช้กับข้อจำกัดด้านเวลาหรือสถานการณ์

  • ตัวอย่าง:
    • 今晚我有事,那个聚会我去不了了。
      Jīnwǎn wǒ yǒu shì, nàge jùhuì wǒ qù bu liǎo le.
      คืนนี้ฉันมีธุระ ปาร์ตี้นั้นฉันไปไม่ได้แล้ว
    • 这么多的作业,你一个人做得了吗?
      Zhème duō de zuòyè, nǐ yí ge rén zuò de liǎo ma?
      การบ้านเยอะขนาดนี้ เธอคนเดียวทำไหวเหรอ?
    • 那段伤心的回忆,我一辈子也忘不了。
      Nà duàn shāngxīn de huíyì, wǒ yíbèizi yě wàng bu liǎo.
      ความทรงจำที่น่าเศร้าช่วงนั้น ทั้งชีวิตฉันก็ลืมไม่ลง

 

โครงสร้างและคำศัพท์เพื่อการสื่อสารที่เป็นทางการ

มาถึงส่วนสุดท้ายของพิมพ์เขียวเราแล้วครับ นั่นคือ “การตั้งป้ายเลขที่บ้าน” ส่วนนี้จะสอนให้นักเรียนใช้คำบุพบทและโครงสร้างที่เป็นทางการ เพื่อยกระดับภาษาของเราให้ดูเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับการใช้งานในที่ทำงาน การเขียนรายงาน การนำเสนอ หรือการอ่านข่าวและบทความวิชาการ

เกี่ยวกับ… ด้วย  关于  (guānyú)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อชี้บ่ง “ขอบเขต” หรือ “หัวข้อหลัก” ของเรื่องที่กำลังจะพูดถึง คล้ายกับคำว่า “Regarding” หรือ “On the subject of…” ในภาษาอังกฤษ

สูตรโครงสร้าง:

关于 + หัวข้อ/ประเด็น, (ประโยค)

คำอธิบายเชิงลึก:

ให้นึกถึง 关于 (guānyú) ว่าเป็นเหมือน “ชื่อหัวข้อของบท” หรือ “ชื่อเรื่องบนปกหนังสือ” มันทำหน้าที่เกริ่นนำว่าสิ่งที่เราจะพูดต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรในภาพรวม มักจะวางไว้ต้นประโยคเพื่อกำหนดกรอบของการสนทนาหรือการเขียน

ตัวอย่างประโยค:

  • 关于这个问题,我们还需要开会讨论。
    Guānyú zhège wèntí, wǒmen hái xūyào kāihuì tǎolùn.
    เกี่ยวกับปัญหานี้ พวกเรายังต้องประชุมหารือกันอีก
  • 关于中国文化,我了解得还不多。
    Guānyú Zhōngguó wénhuà, wǒ liǎojiě de hái bù duō.
    เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน ฉันยังเข้าใจไม่มากนัก
  • 这是一本关于环境保护的书。
    Zhè shì yì běn guānyú huánjìng bǎohù de shū.
    นี่คือหนังสือเล่มหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

 

สำหรับ… / ในส่วนของ… ด้วย  对于  (duìyú)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อเจาะจงถึง “เป้าหมาย” หรือ “ผู้รับ” ของการกระทำ, ทัศนคติ หรือความคิดเห็น คล้ายกับคำว่า “Towards” หรือ “As for…” ในภาษาอังกฤษ

สูตรโครงสร้าง:

对于 + เป้าหมาย, (ประธาน) + (ความคิดเห็น/การกระทำ)

คำอธิบายเชิงลึก:

ถ้า 关于 (guānyú) คือการบอก “หัวข้อกว้างๆ” 对于 (duìyú) คือการ “เล็งเป้า” ไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ มันชี้ให้เห็นว่าความคิดเห็นหรือการกระทำนั้นๆ “มีต่อ” อะไรหรือใคร เช่น

  • 关于这个问题
    Guānyú zhège wèntí
    (เกี่ยวกับปัญหานี้ – ปัญหาคือหัวข้อ)
  • 对于这个问题
    Duìyú zhège wèntí
    (สำหรับปัญหานี้ – เรากำลังจะแสดงความเห็น “ต่อ” ปัญหานี้)
    ความแตกต่างเล็กน้อยนี้คือสิ่งที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาครับ

ตัวอย่างประโยค:

  • 对于这个计划,我有一些不同的看法。
    Duìyú zhège jìhuà, wǒ yǒu yìxiē bùtóng de kànfǎ.
    สำหรับแผนการนี้ ฉันมีความคิดเห็นที่แตกต่างอยู่บ้าง
  • 对于年轻人来说,找到一份理想的工作并不容易。
    Duìyú niánqīngrén lái shuō, zhǎodào yí fèn lǐxiǎng de gōngzuò bìng bù róngyì.
    สำหรับคนหนุ่มสาวแล้ว การหางานในอุดมคติสักงานหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
  • 他对于别人的批评总是很冷静。
    Tā duìyú biérén de pīpíng zǒngshì hěn lěngjìng.
    เขามักจะใจเย็นเสมอต่อคำวิจารณ์ของผู้อื่น

 

เนื่องจาก… ด้วย  由于  (yóuyú)

คำอธิบายหลักการ: ใช้เพื่อบอก “สาเหตุ” ของเหตุการณ์หรือผลลัพธ์ที่ค่อนข้างสำคัญ เป็นทางการกว่า 因为 (yīnwèi)

สูตรโครงสร้าง:

由于 + (สาเหตุ), (ผลลัพธ์)

คำอธิบายเชิงลึก:

นักเรียนทุกคนรู้จัก 因为 yīnwèi (เพราะว่า) ดีอยู่แล้ว แต่ในโลกของการทำงาน การเขียนอีเมล หรือการรายงานข่าว การใช้ 由于 (yóuyú) จะทำให้ภาษาของเราดูน่าเชื่อถือและเป็นทางการขึ้นมาก มันให้ความรู้สึกเหมือนการแถลงการณ์ถึงสาเหตุอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่การบอกเหตุผลทั่วๆ ไป เช่น

  • เพื่อนอาจจะบอกเราว่า
    “因为下雨,所以我没来”
    Yīnwèi xiàyǔ, suǒyǐ wǒ méi lái
    (เพราะฝนตก ฉันเลยไม่ได้มา)
  • สายการบินจะประกาศว่า
    “由于天气原因,航班被取消了”
    Yóuyú tiānqì yuányīn, hángbān bèi qǔxiāo le
    (เนื่องด้วยเหตุผลทางสภาพอากาศ เที่ยวบินจึงถูกยกเลิก)

เห็นความแตกต่างของระดับภาษาไหมครับ? นี่แหละครับคือการตั้งป้ายเลขที่บ้านให้ภาษาของเรา

ตัวอย่างประโยค:

  • 由于准备充分,我们顺利地完成了这次任务。
    Yóuyú zhǔnbèi chōngfèn, wǒmen shùnlì de wánchéng le zhè cì rènwù.
    เนื่องจากการเตรียมตัวอย่างเต็มที่ พวกเราจึงทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
  • 由于交通堵塞,他今天开会迟到了。
    Yóuyú jiāotōng dǔsè, tā jīntiān kāihuì chídào le.
    เนื่องจากการจราจรติดขัด วันนี้เขาจึงเข้าประชุมสาย
  • 由于全球气候变暖,许多动物正面临灭绝的危险。
    Yóuyú quánqiú qìhòu biànnuǎn, xǔduō dòngwù zhèng miànlín mièjué de wēixiǎn.
    เนื่องจากภาวะโลกร้อน สัตว์จำนวนมากกำลังเผชิญกับอันตรายจากการสูญพันธุ์

และนี่ก็คือพิมพ์เขียวทั้งหมดของไวยากรณ์ HSK 4 ครับ! เหล่าซือหวังว่าการอธิบายโดยเน้นที่ “ความรู้สึก” และการเปรียบเทียบ จะช่วยให้นักเรียนทุกคนเห็นภาพรวมและเข้าใจหลักการต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่าการเรียนไวยากรณ์ไม่ใช่การท่องจำกฎ แต่คือการทำความเข้าใจเครื่องมือเพื่อนำไปสร้างสรรค์สิ่งที่เราต้องการจะสื่อสาร ขอเพียงแค่เราฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เราก็จะสามารถใช้ไวยากรณ์เหล่านี้ได้อย่างสละสลวยและเป็นธรรมชาติแน่นอนครับ! 加油! (jiāyóu!)

You may also like