รีวิว ตำนานจั้งไห่ (Legend of Zang Hai) การล้างแค้นคือเกมกระดานสุดอันตรายของเซียวจ้าน

“ตำนานจั้งไห่” ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่สั่นสะเทือนวงการ

ปรากฏการณ์สะเทือนวงการซีรีส์จีนได้เริ่มขึ้นแล้วกับ ตำนานจั้งไห่ (Legend of Zang Hai) 藏海传 ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่ไม่ได้เป็นแค่ละคร แต่คือ “อีเวนต์” ที่คอซีรีส์ทั่วโลกรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เสียงฮือฮาไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากแรงสั่นสะเทือนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างตั้งใจ ก่อนที่ซีรีส์จะออกอากาศ ยอดจองล่วงหน้าบนแพลตฟอร์ม Youku ก็ได้ทุบสถิติไปอย่างถล่มทลาย ทะยานผ่าน 8.45 ล้านครั้ง กลายเป็นซีรีส์ที่มียอดจองสูงสุดตลอดกาลของแพลตฟอร์ม และเมื่อถึงเวลาออกอากาศตอนแรก ก็สร้างสถิติใหม่ๆ ไม่หยุดหย่อน ทั้งการครองอันดับ 1 ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ และทำดัชนีความร้อนแรง (Heat Index) บน Youku พุ่งทะยานทำลายสถิติอย่างรวดเร็ว

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ตั้งอยู่บนเสาหลักสามต้นที่แข็งแกร่งจนยากจะโค่นล้มได้ หนึ่งคือการกลับมาทวงบัลลังก์ซีรีส์ย้อนยุคของซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง เซียวจ้าน (Xiao Zhan) ซึ่งเป็นการคืนสู่เหย้าในแนวทางที่เคยสร้างชื่อให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกจาก ปรมาจารย์ลัทธิมาร สองคือการได้ผู้กำกับระดับตำนานอย่าง เจิ้งเสี่ยวหลง (Zheng Xiaolong) เจ้าของผลงานมาสเตอร์พีซที่ขึ้นหิ้งไปแล้วอย่าง เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน (Empresses in the Palace) และ หมี่เยี่ย จอมนางเหนือมังกร (The Legend of Mi Yue) มาคุมบังเหียน การันตีได้ถึงความลุ่มลึก เข้มข้น และชั้นเชิงในการเล่าเรื่องการเมืองในราชสำนักที่หาตัวจับยาก และสามคือการหยิบยกเรื่องราวจากจักรวาลของ หนานไพ่ซานซู (Nan Pai San Shu) นักเขียนชื่อดังเจ้าของซีรีส์นิยายชุด บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน (Daomu Biji) มาขยายความ ทำให้ซีรีส์มีมิติของความลึกลับและปมปริศนาที่แข็งแรงรองรับอยู่

การผสมผสานของสามขุมพลังนี้ไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมแค่ในจีน แต่ยังส่งผลไปทั่วโลก ซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศในกว่า 190 ประเทศและภูมิภาคผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Youku และ Disney+ ได้รับคะแนนรีวิวบน IMDb สูงถึง 8.8 (เคยพุ่งไปถึง 9.5) พร้อมคำวิจารณ์ชื่นชมจากนานาชาติที่ยกย่องการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาด งานภาพที่งดงาม และความลึกซึ้งทางอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า ตำนานจั้งไห่ ไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นโมเดลใหม่ของอุตสาหกรรมที่ใช้พลังของดารา ผู้กำกับ และต้นฉบับที่แข็งแกร่ง มาสร้างสรรค์ผลงานระดับ “อีเวนต์” ที่ทั้งทรงคุณค่าด้านศิลปะและถล่มทลายในเชิงพาณิชย์

เรื่องย่อ “ตำนานจั้งไห่” จากโศกนาฏกรรมสู่การล้างแค้น

เรื่องราวเปิดฉากด้วยชีวิตอันแสนสุขของ จื้อหนู (Zhì Nú) เด็กชายผู้เป็นบุตรชายของหัวหน้าโหรหลวงแห่งสำนักโหราศาสตร์ต้าหยง แต่แล้วในคืนเดียว โลกทั้งใบของเขาก็พังทลายลง เมื่อครอบครัวและคนในบ้านทั้งหมดถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น มีเพียงจื้อหนูที่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดจากการหนีผ่านอุโมงค์ลับที่เขาขุดเล่นไว้ใต้บ้าน เขาได้รับการช่วยเหลือจากชายปริศนาสวมหน้ากาก ผู้พาเขาหลบหนีออกจากเมืองหลวงไป

สิบปีต่อมา จื้อหนูได้หายไปจากโลกนี้แล้ว และผู้ที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่คือ จั้งไห่ (Zàng Hǎi) ชายหนุ่มผู้มีชีวิตอยู่ด้วยไฟแค้น ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธ์เพื่อกลับไปต่อสู้ แต่เขาได้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อศึกษาศาสตร์ความรู้หลากแขนงจนเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม วิศวกรรม กลยุทธ์การวางแผน ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ หรือที่ในเรื่องเรียกรวมๆ ว่า “คาน-อวี๋” ไปจนถึงศาสตร์แห่งการเจรจาต่อรองและจิตวิทยาเพื่อควบคุมใจคน เขายอมเปลี่ยนแปลงแม้กระทั่งรูปลักษณ์ภายนอกเพื่อลบตัวตนเดิมทิ้งไปจนหมดสิ้น

เมื่อถึงเวลาอันควร จั้งไห่เดินทางกลับสู่เมืองหลวงอีกครั้งในฐานะบัณฑิตตกยากผู้ปราดเปรื่อง เป้าหมายของเขามีเพียงหนึ่งเดียว คือการเข้าไปอยู่เคียงข้างศัตรูคู่อาฆาต จวงหลูอิ่น (Zhuang Luyin) หรือ ผิงจินโหว (Marquess of Ping Jing) ผู้ที่ทำลายชีวิตของเขา จั้งไห่ต้องใช้สติปัญญาและความรู้ทั้งหมดที่สั่งสมมาเป็นอาวุธ เพื่อทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ผิงจินโหวขาดไม่ได้ ก่อนจะค่อยๆ ทลายอำนาจของศัตรูจากภายใน นี่คือเกมหมากรุกการเมืองที่เดิมพันด้วยชีวิต ทุกย่างก้าวต้องผ่านการคำนวณอย่างรอบคอบ เพราะหากพลาดเพียงครั้งเดียว นั่นหมายถึงความตาย การที่เรื่องเลือกให้พระเอกใช้ “ความรู้” เป็นอาวุธหลักแทน “กำลัง” ถือเป็นการฉีกขนบของซีรีส์แก้แค้นทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และยกระดับเรื่องราวให้กลายเป็นสงครามประสาทและเกมการเมืองที่ซับซ้อนและน่าติดตามอย่างยิ่ง

เจาะลึกตัวละคร หมากทุกตัวบนกระดานแห่งอำนาจและการแก้แค้น

ความสนุกของ ตำนานจั้งไห่ ไม่ได้อยู่ที่พล็อตเรื่องที่เข้มข้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่การสร้างตัวละครที่มีมิติซับซ้อน ทุกตัวละครล้วนเป็นหมากสำคัญบนกระดานที่ต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง

จั้งไห่ (Zàng Hǎi) 藏海 / จื้อหนู (Zhì Nú) 稚奴

รับบทโดย: เซียวจ้าน (Xiao Zhan)

จั้งไห่คือหัวใจของเรื่องราวทั้งหมด เขาคือชายหนุ่มที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจากความแค้น ภายนอกเขาดูเยือกเย็น สุขุม และอ่อนน้อมถ่อมตน สามารถปรับตัวเข้ากับเกมการเมืองในราชสำนักได้อย่างแนบเนียน เขาจงใจสร้างภาพลักษณ์ของ “บัณฑิตยากไร้แต่เฉียบแหลม” เพื่อลดการป้องกันของศัตรู แต่ภายใต้หน้ากากนั้นคือสมองอันปราดเปรื่องที่ลุกโชนไปด้วยความเศร้าและความโกรธ การเดินทางของเขาจึงไม่ใช่แค่การล้างแค้น แต่ยังเป็นการต่อสู้กับด้านมืดในใจตัวเองที่เขาต้องยอมรับเพื่อเอาชนะ แต่ถึงแม้จะเดินบนเส้นทางที่อันตราย เขาก็ไม่เคยละทิ้งความยุติธรรมและความดีงามในจิตใจ

เซียงอานถู (Xiāng Àn Tú) 香暗荼

รับบทโดย: จางจิ้งอี๋ (Zhang Jingyi)

เธอไม่ใช่นางเอกตามขนบที่รอให้พระเอกมาช่วยเหลือ แต่เป็นตัวละครหญิงที่ทรงพลังและน่าค้นหา เซียงอานถูคือเจ้าของหอเจิ่นผู้มั่งคั่งและชาญฉลาด เธอเองก็มีอดีตอันเจ็บปวดที่ต้องแบกรับไว้เช่นเดียวกับจั้งไห่ เธอเป็นหญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบ และมีฝีมือ โดยเฉพาะวรยุทธ์ที่เก่งกาจ การปรากฏตัวของเธอในฐานะพันธมิตรของจั้งไห่จึงไม่ใช่การช่วยเหลือ แต่เป็นการร่วมมือที่ต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายของตัวเอง ทำให้เธอเป็นผู้เล่นที่คาดเดาได้ยากและน่าจับตามอง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเริ่มต้นจากการประลองปัญญาและความหวาดระแวง ก่อนจะค่อยๆ ก่อตัวเป็นความเชื่อใจ

จวงหลูอิ่น (Zhuāng Lú Yǐn) 庄鹭隐

รับบทโดย: หวงเจวี๋ย (Huang Jue)

ในฐานะผิงจินโหว เขาคือตัวร้ายหลักและเป็นคนที่สังหารครอบครัวของจั้งไห่ แต่ซีรีส์ไม่ได้สร้างให้เขาเป็นแค่ตัวร้ายดาษๆ จวงหลูอิ่นคือคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับจั้งไห่อย่างแท้จริง เขาเป็นคนฉลาดเป็นกรด เลือดเย็น และทรงอิทธิพลอย่างมหาศาล เขาทั้งขี้ระแวง มีสัญชาตญาณที่เฉียบคม และพร้อมที่จะใช้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอำนาจ เงินทอง หรือการแบล็กเมล์เพื่อกำจัดเสี้ยนหนาม ความน่าเกรงขามของเขาทำให้ภารกิจของจั้งไห่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและยกระดับการต่อสู้ทางปัญญาให้เข้มข้นถึงขีดสุด

การมีอยู่ของเซียงอานถูในฐานะขั้วอำนาจที่สามที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อพระเอกหรือตัวร้าย ทำให้สมการอำนาจในเรื่องซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น มันไม่ใช่แค่เกมระหว่างจั้งไห่กับจวงหลูอิ่น แต่เป็นเกมสามก๊กที่พันธมิตรสามารถเปลี่ยนข้างได้ตลอดเวลา ทำให้ผู้ชมไม่สามารถคาดเดาตอนจบได้เลย

ตัวละครสำคัญใน “ตำนานจั้งไห่”

เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามเรื่องราวที่เต็มไปด้วยตัวละครและการเมืองอันซับซ้อน ตารางนี้จะช่วยให้คุณรู้จักกับผู้เล่นคนสำคัญบนกระดานนี้ได้ดียิ่งขึ้น

“คาน-อวี๋” (堪舆) เมื่อความรู้คืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด

สิ่งที่ทำให้ ตำนานจั้งไห่ โดดเด่นและแตกต่างคือการใช้องค์ความรู้โบราณมาเป็นอาวุธหลักของพระเอก คำว่า คาน-อวี๋ 堪舆 (Kān Yú) คือคำที่ใช้เรียกรวมศาสตร์ต่างๆ ที่จั้งไห่เชี่ยวชาญ ซึ่งประกอบไปด้วย ฮวงจุ้ย 风水 (fēngshuǐ) สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์ แม้ในปัจจุบันบางศาสตร์อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องของความเชื่อ แต่ในยุคจีนโบราณ ศาสตร์เหล่านี้มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการเมืองและสังคม และยังเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ด้านการช่างและวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง

จั้งไห่ได้เปลี่ยนความรู้เหล่านี้ให้กลายเป็นอาวุธที่อันตรายยิ่งกว่าคมดาบ

• วิศวกรรมกลไก: เขาใช้ความเข้าใจด้านสถาปัตยกรรมและกลไกในการไขปริศนาและควบคุมโครงสร้างที่ซับซ้อนอย่างสุสานหลวง เปลี่ยนกับดักมรณะให้กลายเป็นทางรอดของตัวเอง
• สงครามจิตวิทยาด้วยดวงดาว: เขาใช้ความเชื่อเรื่องดวงชะตาและโหราศาสตร์ที่ฝังรากลึกในสังคมมาปั่นหัวศัตรู ตัวอย่างที่เด็ดที่สุดคือตอนที่เขาเกือบถูกฝังทั้งเป็นในสุสานหลวงตาม “ราชประเพณี” เพราะมีคนกุเรื่องว่าดวงชะตาแปดอักษรของเขาเหมาะแก่การสังเวย แต่จั้งไห่กลับใช้ตรรกะความเชื่อเดียวกันนี้ตลบหลังศัตรูจนอีกฝ่ายต้องกลายเป็นผู้ถูกฝังแทนอย่างสะใจ
• การสร้างอำนาจต่อรอง: ความรู้ที่เขามีทำให้เขาสามารถช่วยราชสำนักแก้ปัญหาสำคัญๆ ได้ ซึ่งเป็นการสร้างบารมีและเปิดทางให้เขาเข้าใกล้ศัตรูได้ง่ายขึ้น

การต่อสู้ทางปัญญาเช่นนี้สร้างความตื่นเต้นในแบบที่ต่างออกไป มันคือความระทึกใจที่เกิดจากการเฝ้ารอให้แผนการอันซับซ้อนของจั้งไห่บรรลุผล ซึ่งสำหรับหลายคนแล้ว มันน่าลุ้นยิ่งกว่าการต่อสู้ด้วยกำลังเสียอีก และในขณะเดียวกัน การนำเสนอศาสตร์ คาน-อวี๋ อย่างน่าทึ่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมชั้นดี ที่เผยแพร่ความงามและความซับซ้อนขององค์ความรู้ตะวันออกให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก

การแสดงระดับพลิกบทบาทของ “เซียวจ้าน” และเคมีที่ต้องจับตา

การแสดงคืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้ ตำนานจั้งไห่ ทรงพลัง และปฏิเสธไม่ได้ว่าเซียวจ้านคือผู้ที่แบกรับบทบาทนี้ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

การแสดงอันเหนือชั้นของเซียวจ้าน

นี่คือบทบาทที่เซียวจ้านตั้งใจ “ฉีก” ตัวเองออกจากภาพจำเดิมๆ และพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างแท้จริง เขาถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครจั้งไห่ได้อย่างน่าทึ่ง ความเจ็บปวด ความแค้น ความฉลาด และความเปราะบาง ถูกส่งผ่านออกมาทางสายตาและสีหน้าเพียงเล็กน้อยได้อย่างทรงพลัง แม้ในฉากที่ไม่มีบทพูด เขาก็ยังคง “แสดง” อยู่ตลอดเวลา ทำให้ตัวละครดูมีชีวิตและสมจริง

ความทุ่มเทของเขาปรากฏชัดผ่านการตัดสินใจใช้ การบันทึกเสียงสด ในการถ่ายทำ ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาสำหรับซีรีส์ย้อนยุค และเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมาก เขายังจ้างโค้ชสอนการพูดเพื่อฝึกฝนการออกเสียงและเน้นน้ำหนักคำแบบโบราณให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้ทุกคำพูดสามารถสื่อความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังได้อย่างลึกซึ้ง การเลือกใช้เสียงสดนี้เป็นเหมือนการประกาศความมั่นใจของทีมงานในตัวนักแสดงนำ ว่าเขาสามารถมอบการแสดงที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ดิบๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาการพากย์เสียงในภายหลัง ฉากที่สะเทือนอารมณ์อย่างตอนที่จั้งไห่ค้นพบชะตากรรมอันน่าสยดสยองของพ่อแม่ การแสดงของเซียวจ้านก็ทรงพลังจนทำให้ผู้ชมแทบจะร้องไห้ตาม

เคมีของคู่ที่ทัดเทียมกัน

สำหรับเคมีระหว่างจั้งไห่และเซียงอานถู นี่ไม่ใช่ความรักแบบหวานแหววที่เกิดขึ้นในทันที แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วงแรกของเรื่องเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบและความระแวงซึ่งกันและกัน เพราะทั้งคู่ต่างก็มีปมในใจและเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ แต่การเริ่มต้นที่ไม่ง่ายนี้กลับทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขามีความเป็นธรรมชาติและดู “จริง” มากขึ้น มันถูกสร้างขึ้นบนรากฐานของความนับถือในสติปัญญาและความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ความตึงเครียดและความลึกลับระหว่างทั้งสองคนจึงกลายเป็นเสน่ห์ที่น่าตื่นเต้นและชวนให้ติดตาม ซึ่งจางจิ้งอี๋ก็สามารถถ่ายทอดบทบาทของหญิงสาวที่แข็งแกร่งและฉลาดทัดเทียมกับพระเอกออกมาได้อย่างน่าเชื่อและน่าประทับใจ

โปรดักชันระดับจักรพรรดิ สมศักดิ์ศรีผู้กำกับ “เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน”

คุณภาพงานสร้างของ ตำนานจั้งไห่ คืออีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ สมศักดิ์ศรีการรอคอยอย่างแท้จริง การได้ผู้กำกับเจิ้งเสี่ยวหลงมาคุมทัพ ร่วมด้วยผู้กำกับร่วมอย่าง เฉาอี้เหวิน (Cao Yiwen) ทำให้มั่นใจได้ว่าซีรีส์จะมีทั้งความซับซ้อนของบท การพัฒนาตัวละครที่ลุ่มลึก และการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลและกระทบใจผู้ชม

งานภาพในเรื่องนั้นงดงามราวกับภาพวาด ทีมงานใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการออกแบบฉาก เสื้อผ้า และอุปกรณ์ประกอบฉากที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ราชวงศ์หมิง อย่างพิถีพิถัน แม้กระทั่งของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างโคมไฟหรือดาบก็ล้วนมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่ สิ่งเหล่านี้สร้างโลกที่สมจริงและชวนให้ดื่มด่ำได้อย่างน่าทึ่ง งานโปรดักชันที่สวยงามนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่อง มันสร้าง “เปลือกนอก” ที่ดูรุ่งเรืองและเป็นระเบียบของราชสำนัก ซึ่งตัดกันอย่างสิ้นเชิงกับ “เนื้อใน” ที่เน่าเฟะและเต็มไปด้วยแผนการชั่วร้ายที่จั้งไห่กำลังขุดคุ้ย ยิ่งภาพสวยงามมากเท่าไหร่ ความโสมมที่ซ่อนอยู่ก็ยิ่งดูกระทบใจมากขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ ซีรีส์ยังสอดแทรกประเด็นที่ลึกซึ้งกว่าแค่การแก้แค้น ไม่ว่าจะเป็นการตีแผ่เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง การใช้อำนาจในทางที่ผิด ความเหลื่อมล้ำระหว่างชีวิตในวังกับความทุกข์ยากของราษฎร ไปจนถึงการตั้งคำถามต่อขนบธรรมเนียมที่โหดร้ายอย่างการฝังคนทั้งเป็นเพื่อสังเวยวิญญาณ ดังที่ตัวละครตัวหนึ่งได้กล่าวไว้อย่างน่าสะเทือนใจว่า “เราล้วนเป็นคนที่กำลังจะตาย สู้เอาชีวิตของเราแลกเงินทองให้ครอบครัวมีชีวิตต่อไปดีกว่า”

“ตำนานจั้งไห่” คุ้มค่าทุกนาที สมศักดิ์ศรีการรอคอย

ตำนานจั้งไห่ คือความสำเร็จอย่างงดงาม และได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ชิงไหวชิงพริบทางการเมือง นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวการแก้แค้นธรรมดา แต่เป็นมหากาพย์ที่ซับซ้อน ชาญฉลาด และงดงามตระการตา

เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้คือ การแสดงอันยอดเยี่ยมและหลายมิติของเซียวจ้าน, พล็อตเรื่องที่ขับเคลื่อนด้วยสติปัญญาอันน่าทึ่ง, ตัวละครหญิงที่แข็งแกร่งและตัวร้ายที่น่าเกรงขาม, และงานโปรดักชันระดับโลกที่ทำให้คุณหลุดเข้าไปในโลกจีนโบราณได้อย่างสมจริง นี่คือซีรีส์ที่ “ต้องดู” สำหรับแฟนซีรีส์จีนตัวยง และเป็นประตูบานแรกที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้ชมหน้าใหม่ที่อยากลองเข้าสู่วงการนี้ รับรองว่าคุ้มค่าทุกนาทีตลอดทั้ง 40 ตอนอย่างแน่นอน

ช่องทางการรับชม:

• แพลตฟอร์มหลัก: Youku (International) , Disney+
• ในประเทศไทย: รับชมได้ทาง TrueVisions Now (แพ็กเกจ NOW PLUS)
• จำนวนตอน: 40 ตอน

ดูซีรีส์ให้อินกว่าเดิม คลังศัพท์ “ตำนานจั้งไห่”

เพื่อให้การรับชม ตำนานจั้งไห่ ได้อรรถรสและเข้าใจในบริบททางวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น การรู้จักคำศัพท์สำคัญๆ ในเรื่องจะช่วยให้คุณอินไปกับเรื่องราวได้มากกว่าเดิม