สวัสดีครับน้องๆ! พี่ในฐานะรุ่นพี่นักเรียนไทยในจีนคนหนึ่ง ขอบอกเลยว่าเข้าใจความรู้สึกของน้องๆ ตอนนี้ดีมากๆ เลยครับ ความรู้สึกตื่นเต้น ปนกับความสับสนว่าจะเลือกเมืองไหนดี มหาวิทยาลัยอะไรจะเหมาะกับเรา คำถามล้านแปดวนเวียนอยู่ในหัว พี่เองก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน และนั่นคือเหตุผลที่พี่ตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นเหมือนคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่พี่เองก็อยากมีในวันนั้น บทความที่จะช่วยให้น้องๆ เห็นภาพชัดขึ้น ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และก้าวแรกสู่การเรียนต่อจีนได้อย่างมั่นใจที่สุด
ทำไมต้องเป็นประเทศจีน? คำตอบสั้นๆ คือ “โอกาส” ครับ จีนไม่ได้อยู่ใกล้แค่ในเชิงภูมิศาสตร์ แต่ยังใกล้เคียงกับเราในทางวัฒนธรรมหลายๆ อย่าง ที่สำคัญคือการเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง การได้มาเรียนที่นี่ก็เหมือนกับการได้นั่งแถวหน้าดูการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมกับได้ทักษะภาษาจีนกลางซึ่งเป็นใบเบิกทางสำคัญในอนาคต มหาวิทยาลัยระดับโลกก็มีให้เลือกเพียบ
ในบทความนี้ พี่จะพาน้องๆ ไปเจาะลึก 6 เมืองยอดฮิต ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หางโจว กว่างโจว เฉิงตู และคุนหมิง ซึ่งแต่ละเมืองก็มี “คาแรคเตอร์” จุดเด่น และค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่าเมืองไหนจะใช่สำหรับน้องๆ ที่สุด!
ปักกิ่ง (Beijing) เมืองหลวงแห่งโอกาสและการศึกษาระดับท็อป
ถ้าจะให้นิยามปักกิ่งในคำเดียว พี่ขอยกให้คำว่า “ศูนย์กลาง” ครับ ที่นี่คือหัวใจของประเทศจีน ทั้งในด้านการเมือง วัฒนธรรม และที่สำคัญที่สุดคือการศึกษา บรรยากาศของเมืองเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์หลายพันปีกับความทะเยอทะยานของมหาอำนาจยุคใหม่
- ข้อดี: ได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ, อยู่ท่ามกลางสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์, มีโอกาสเข้าถึงแหล่งข้อมูลและคอนเนคชันระดับประเทศ
- ข้อควรพิจารณา: ค่าครองชีพสูงเป็นอันดับต้นๆ, การแข่งขันสูงในทุกๆ ด้าน, และอากาศที่หนาวจัดในฤดูหนาวอาจจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเด็กไทย
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ไม่ควรพลาด
ปักกิ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศ ที่เรียกได้ว่าเป็นความใฝ่ฝันของนักเรียนทั่วโลก
- Peking University (PKU): มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของจีน ได้รับการจัดอันดับที่ 14 ของโลกโดย QS World University Rankings มีชื่อเสียงโดดเด่นในสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ วิศวกรรมศาสตร์ และภาษาจีน บรรยากาศในแคมปัสสวยงามและน่าเรียนมากๆ นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาพิเศษอย่าง Yenching Academy ที่น่าสนใจอีกด้วย
- Tsinghua University: ได้รับการขนานนามว่าเป็น “MIT แห่งเมืองจีน” โด่งดังสุดๆ ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ เพราะมีสัดส่วนนักเรียนต่างชาติสูงถึง 20% และมีหลักสูตรปริญญาโทที่สอนเป็นภาษาอังกฤษมากกว่า 30 หลักสูตร
- สถาบันอื่นๆ ที่น่าสนใจ: สำหรับน้องๆ ที่อยากเน้นภาษาโดยเฉพาะ Beijing Language and Culture University (BLCU) คือเบอร์หนึ่งแบบไม่มีใครเทียบ ส่วนใครที่สนใจด้านการศึกษาและศิลปศาสตร์ Beijing Normal University (BNU) ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
เจาะลึกค่าใช้จ่ายฉบับนักศึกษา
ยอมรับว่าปักกิ่งเป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูง แต่ถ้าเราใช้ชีวิตแบบนักศึกษาท้องถิ่น ก็สามารถจัดการได้ไม่ยากครับ
ประมาณการค่าครองชีพรายเดือนในปักกิ่ง (หน่วย: หยวน RMB)
| หมวดหมู่ค่าใช้จ่าย | งบประมาณ (สไตล์ท้องถิ่น) | งบประมาณ (ระดับกลาง) | หมายเหตุและเคล็ดลับจากรุ่นพี่ |
| ที่พัก (แชร์อพาร์ตเมนต์) | 2,000 – 4,000 | 4,000 – 6,000 | หอพักในมหาวิทยาลัยจะถูกกว่ามาก แต่มีจำกัดและต้องรีบจอง |
| อาหาร | 1,200 – 1,500 | 2,500 – 5,000 | ทานข้าวในโรงอาหารมหาวิทยาลัยช่วยประหยัดได้เยอะมาก |
| การเดินทาง | ~200 | ~300 | บัตรรายเดือนรถไฟใต้ดินคือสิ่งที่ต้องมี เดินทางสะดวกและคุ้มค่า |
| สาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต | 500 – 800 | 800 – 1,000 | ค่าไฟจะสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวเพราะต้องใช้ฮีตเตอร์ |
| สันทนาการ/อื่นๆ | 500 – 1,000 | 1,500+ | ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ และกิจกรรมมีหลากหลายราคา |
| รวม (ไม่รวมค่าเทอม) | ~4,400 – 7,500 | ~9,100 – 13,800+ | ตัวเลขนี้เป็นเพียงการประมาณการ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน |
สำหรับค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 70,000 หยวนต่อปี ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาและภาษาที่ใช้ในการสอน โดยหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษและสาขาการแพทย์มักจะมีค่าเล่าเรียนสูงกว่า
การเตรียมตัวและเงื่อนไขการสมัคร
การสมัครเรียนที่ปักกิ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องผลสอบวัดระดับภาษาจีน (HSK)
- เกณฑ์ HSK: จุดสำคัญที่น้องๆ ต้องรู้คือ “เกณฑ์ HSK ที่แตกต่างกันตามสายวิชา” ตัวอย่างเช่น ที่ Beijing Normal University (BNU) การสมัครเรียนปริญญาตรีสายศิลปศาสตร์อาจต้องการ HSK ระดับ 6 ในขณะที่สายวิทยาศาสตร์อาจต้องการเพียง HSK ระดับ 3 เท่านั้น ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่น BLCU โดยทั่วไปจะต้องการ HSK 5 หรือ 6 สำหรับหลักสูตรปริญญา ดังนั้น การวางแผนเตรียมสอบ HSK ให้ตรงกับสาขาที่อยากเข้าจึงสำคัญมาก
- เอกสารที่ต้องเตรียม: โดยทั่วไปจะประกอบด้วย:
- ใบสมัครออนไลน์
- สำเนาหนังสือเดินทาง
- ใบรับรองการจบการศึกษา (หรือใบคาดว่าจะจบ)
- ใบแสดงผลการเรียน (Transcript)
- ใบรับรองผลสอบ HSK
- จดหมายแนะนำ (Recommendation Letter)
- ใบรับรองความประพฤติ (Non-criminal record)
- หลักฐานการชำระค่าสมัคร
- ข้อควรจำ: หากเอกสารไม่ใช่ภาษาจีนหรืออังกฤษ ต้องนำไปแปลและรับรองให้เรียบร้อย
การแข่งขันเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง PKU และ Tsinghua นั้นสูงมาก แม้ว่าจะมีข้อมูลระบุว่านักเรียนต่างชาติมีโอกาสได้รับการตอบรับง่ายกว่านักเรียนจีน แต่ด้วยชื่อเสียงระดับโลกของมหาวิทยาลัยเหล่านี้ ทำให้มีนักเรียนหัวกะทิจากทั่วโลกยื่นใบสมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ขั้นต่ำอาจไม่เพียงพอ น้องๆ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่สองมหาวิทยาลัยนี้ควรเตรียมโปรไฟล์ให้โดดเด่นรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตร, Personal Statement ที่น่าสนใจ และจดหมายแนะนำที่แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับคัดเลือก
เคล็ดลับจากรุ่นพี่
- การเดินทาง: ระบบรถไฟใต้ดินของปักกิ่งมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมาก ควรศึกษาเส้นทางให้ดี
- การใช้ชีวิต: เตรียมเสื้อกันหนาวดีๆ สักตัวสำหรับฤดูหนาวที่ยาวนาน และลองหาเวลาไปเดินเล่นในย่าน “หูท่ง” (Hutongs) เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบปักกิ่งดั้งเดิม
- หาเพื่อน: เข้าร่วมชมรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัย และลองหาร้านอาหารไทยเพื่อคลายความคิดถึงบ้านได้
เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) มหานคร ศูนย์กลางธุรกิจ และแฟชั่น
ถ้าปักกิ่งคือ “ศูนย์กลาง” เซี่ยงไฮ้ก็คือ “หน้าต่างสู่โลก” ครับ เมืองนี้มีชีวิตชีวา ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นสากล และเต็มไปด้วยพลังของโลกธุรกิจและแฟชั่น บรรยากาศที่นี่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของมหานครระดับโลกจริงๆ
- ข้อดี: โอกาสในการสร้างเครือข่ายและฝึกงานที่หาที่ไหนไม่ได้, มีชุมชนชาวต่างชาติขนาดใหญ่, ผู้คนใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ค่อนข้างแพร่หลาย, และมีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย
- ข้อควรพิจารณา: ค่าครองชีพสูงที่สุดในจีน, บรรยากาศอาจจะเร่งรีบและมีความเป็น “จีนดั้งเดิม” น้อยกว่าเมืองอื่นๆ
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ไม่ควรพลาด
เซี่ยงไฮ้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นด้านความเป็นสากลและธุรกิจ
- Fudan University: ติดอันดับ Top 40 ของโลก มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านการสอนภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติผ่านสถาบัน International Cultural Exchange School (ICES) นอกจากนี้ยังมีสาขาที่แข็งแกร่งอย่างสังคมศาสตร์, วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และการแพทย์
- Shanghai Jiao Tong University (SJTU): โดดเด่นด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก เช่น MIT และ Columbia สาขาที่มีชื่อเสียงคือธุรกิจ, การแพทย์ และวิศวกรรมศาสตร์ ที่สำคัญคือคณะบริหารธุรกิจของที่นี่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลถึง 3 สถาบัน (AACSB, EQUIS, AMBA) ซึ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพระดับโลก
- สถาบันอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ยังมี Tongji University และ East China Normal University ที่เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงเช่นกัน
เจาะลึกค่าใช้จ่ายฉบับนักศึกษา
เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเซี่ยงไฮ้คือเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุด แต่ก็ยังมีวิธีบริหารจัดการได้ครับ
ประมาณการค่าครองชีพรายเดือนในเซี่ยงไฮ้ (หน่วย: หยวน RMB)
| หมวดหมู่ค่าใช้จ่าย | งบประมาณ (สไตล์ท้องถิ่น) | งบประมาณ (ระดับกลาง) | หมายเหตุและเคล็ดลับจากรุ่นพี่ |
| ที่พัก | 3,000 – 5,000 | 5,000 – 8,000+ | ค่าที่พักคือค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุด หอพักในบางแห่งอาจมีราคาสูง เช่น NYU Shanghai ประมาณ $5,606 USD/ปี (~3,400 หยวน/เดือน) การแชร์ห้องนอกมหาวิทยาลัยเป็นที่นิยม |
| อาหาร | 1,500 – 2,000 | 3,000 – 4,000+ | ทานอาหารท้องถิ่นและทำอาหารเองจะช่วยประหยัดได้มาก |
| การเดินทาง | ~200 – 300 | ~400 | รถไฟใต้ดินยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุด |
| สาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต | 400 – 600 | 600 – 800 | คล้ายกับเมืองใหญ่อื่นๆ |
| สันทนาการ/อื่นๆ | 1,000 – 1,500 | 2,000+ | ชีวิตสังคมในเซี่ยงไฮ้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ต้องวางแผนให้ดี |
| รวม (ไม่รวมค่าเทอม) | ~6,100 – 9,400 | ~11,000 – 15,200+ | ค่าใช้จ่ายสามารถยืดหยุ่นได้มาก ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ |
การเตรียมตัวและเงื่อนไขการสมัคร
การสมัครเรียนที่เซี่ยงไฮ้เน้นย้ำถึงความเป็นสากลและความพร้อมของผู้สมัคร
- เกณฑ์ HSK: โดยทั่วไป ระดับปริญญาตรีหลักสูตรภาษาจีนต้องการ HSK 4 เป็นอย่างน้อย ส่วนระดับปริญญาโทและเอกอาจต้องการ HSK 5-6
- เกณฑ์ภาษาอังกฤษ: สำหรับหลักสูตรนานาชาติ (English-taught) มักจะต้องการผลคะแนน TOEFL iBT 80 ขึ้นไป หรือ IELTS 6.0 ขึ้นไป
- หลักฐานทางการเงิน: นี่เป็นจุดที่สำคัญมาก! หลายมหาวิทยาลัยในเซี่ยงไฮ้กำหนดให้ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานทางการเงิน (Proof of Funds) ซึ่งโดยทั่วไปคือรายการเดินบัญชีที่มียอดคงเหลือระหว่าง $3,000 – $10,000 USD เพื่อให้มั่นใจว่านักศึกษามีความพร้อมด้านค่าใช้จ่ายตลอดการศึกษา
มหาวิทยาลัยในเซี่ยงไฮ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาธุรกิจและวิศวกรรมศาสตร์ มักจะมองหาผู้สมัครที่มี “ทัศนคติแบบสากล” (Global Mindset) เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลกและมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็เน้นย้ำเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศและความพร้อมในการทำงาน ดังนั้น การสร้างโปรไฟล์ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่หลากหลาย, ประสบการณ์การฝึกงาน, ทักษะการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และเป้าหมายในอาชีพที่ชัดเจน จะทำให้ใบสมัครของน้องๆ โดดเด่นกว่าคนอื่น
เคล็ดลับจากรุ่นพี่
- สร้างเครือข่าย: ใช้ประโยชน์จากความเป็นศูนย์กลางธุรกิจของเมือง เข้าร่วมงานสัมมนา งาน Career Fairs ของมหาวิทยาลัย และใช้แพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn ตั้งแต่เนิ่นๆ การฝึกงานคือหัวใจสำคัญในเซี่ยงไฮ้
- การใช้ชีวิต: ศึกษาเส้นทางรถไฟใต้ดินให้เชี่ยวชาญ และลองหาเวลาไปเดินเล่นในย่านสวยๆ อย่าง Former French Concession เพื่อพักผ่อนจากความวุ่นวาย
- ควบคุมงบ: เซี่ยงไฮ้มีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะมาก โดยเฉพาะอาหารตะวันตกและสถานบันเทิงยามค่ำคืน การมีวินัยในการใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
หางโจว (Hangzhou): เมืองสวรรค์บนดิน ผสมผสานเทคโนโลยีและธรรมชาติ
หางโจวคือเมืองที่พี่คิดว่า “สมดุล” ที่สุด ที่นี่มีทิวทัศน์สวยงามราวกับภาพวาดของทะเลสาบซีหู แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของจีน (เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Alibaba) เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ นวัตกรรม และคุณภาพชีวิตที่ดี
- ข้อดี: บรรยากาศสวยงามและผ่อนคลาย, เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, คุณภาพชีวิตสูง, และค่าครองชีพถูกกว่าปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้
- ข้อควรพิจารณา: อาจจะรู้สึกว่าเป็นเมืองที่เล็กและเงียบกว่า, ตัวเลือกด้านความบันเทิงแบบสากลอาจมีไม่มากเท่าเมืองใหญ่อื่นๆ
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ไม่ควรพลาด
แม้จะเป็นเมืองรอง แต่หางโจวมีมหาวิทยาลัยระดับท็อปที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร
- Zhejiang University (ZJU): นี่คือเพชรยอดมงกุฎของหางโจว เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยกลุ่ม C9 League ซึ่งเทียบเท่ากับ Ivy League ของจีน มีชื่อเสียงและคุณภาพทัดเทียมกับ PKU และ Tsinghua ในหลายสาขา ZJU เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ มีขนาดใหญ่ และมีความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำของโลกมากมาย เช่น Imperial College London และ Princeton University
- สถาบันอื่นๆ ที่น่าสนใจ: Zhejiang University of Technology เป็นมหาวิทยาลัยในโครงการ “211 Project” ที่มีคุณภาพ, Hangzhou Normal University มีชื่อเสียงด้านการฝึกหัดครู, และ China Academy of Art เป็นสถาบันศิลปะชั้นนำของประเทศ
เจาะลึกค่าใช้จ่ายฉบับนักศึกษา
หางโจวเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการการศึกษาคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล
ประมาณการค่าครองชีพรายเดือนในหางโจว (หน่วย: หยวน RMB)
| หมวดหมู่ค่าใช้จ่าย | ประมาณการค่าใช้จ่าย (ช่วง) | หมายเหตุและเคล็ดลับจากรุ่นพี่ |
| ที่พัก (แชร์อพาร์ตเมนต์) | 2,000 – 6,000 | ราคาใกล้เคียงกับปักกิ่ง แต่คุณภาพของที่พักต่อราคาอาจจะดีกว่า |
| อาหาร | 1,500 – 3,000 | ค่าอาหารและของสดโดยทั่วไปถูกกว่าปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ |
| การเดินทาง | ~200 | บัตรรายเดือนรถไฟใต้ดินยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า |
| สาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต | 400 – 600 | ค่าใช้จ่ายมาตรฐานสำหรับเมืองใหญ่ |
| รวม (ไม่รวมค่าเทอม) | ~4,100 – 9,800 | เป็นเมืองที่ให้คุณภาพชีวิตที่ดีในราคาที่จับต้องได้ |
การเตรียมตัวและเงื่อนไขการสมัคร
เกณฑ์การสมัครของมหาวิทยาลัยในหางโจวเป็นไปตามมาตรฐานสากล
- เกณฑ์ HSK: โดยทั่วไปต้องการ HSK 4 สำหรับหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาจีน แต่บางสาขาอาจต้องการ HSK 5
- เกณฑ์อายุ: บางมหาวิทยาลัยมีการระบุช่วงอายุที่ชัดเจน เช่น 18-25 ปี สำหรับปริญญาตรี และ 18-45 ปี สำหรับหลักสูตรภาษา
- ขั้นตอนการสมัคร: ส่วนใหญ่เป็นการสมัครผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย โดยใช้เอกสารมาตรฐาน เช่น พาสปอร์ต, ใบรับรองการศึกษา, ใบแสดงผลการเรียน, ผล HSK และใบรับรองความประพฤติ
ด้วยสถานะของหางโจวในฐานะ “ซิลิคอนวัลเลย์แห่งประเทศจีน” เมืองนี้จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักศึกษาที่สนใจด้านเทคโนโลยี, E-commerce, และนวัตกรรมดิจิทัล การได้เรียนที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้รับความรู้จากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง ZJU แต่ยังได้สัมผัสกับระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การกล่าวถึงความสนใจในสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีของเมืองในใบสมัคร จะช่วยแสดงให้เห็นว่าน้องๆ ได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีและมีความตั้งใจจริง
เคล็ดลับจากรุ่นพี่
- ดื่มด่ำกับธรรมชาติ: เช่าจักรยานปั่นรอบทะเลสาบซีหู หรือไปเยี่ยมชมไร่ชาหลงจิ่ง เป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาด
- เชื่อมต่อกับเทคโนโลยี: ลองเข้าร่วมงานสัมมนาหรือ Meetup ด้านเทคโนโลยีในเมืองเพื่อสร้างเครือข่าย
- เดินทางสะดวก: ใช้ประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูงของหางโจวเพื่อเดินทางไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย
กว่างโจว (Guangzhou) ประตูสู่แดนใต้ เมืองแห่งการค้าและอาหาร
กว่างโจวคือเมืองที่คึกคัก มีชีวิตชีวา และ “อร่อย” มากครับ! ที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมกวางตุ้งที่โดดเด่น โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักชิม
- ข้อดี: อาหารอร่อยและหลากหลาย, ค่าครองชีพถูกกว่าปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้อย่างเห็นได้ชัด, เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ, และอยู่ใกล้ฮ่องกงกับมาเก๊า
- ข้อควรพิจารณา: อากาศร้อนชื้นคล้ายเมืองไทย, คนท้องถิ่นนิยมใช้ภาษากวางตุ้งในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจเป็นความท้าทายเพิ่มเติมจากภาษาจีนกลาง
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ไม่ควรพลาด
กว่างโจวมีมหาวิทยาลัยชั้นนำที่แข็งแกร่งในหลายสาขา
- Sun Yat-sen University (SYSU): เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในโครงการ “985” และ “211” ที่มีชื่อเสียงและขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ มีความโดดเด่นในหลากหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการแพทย์
- South China University of Technology (SCUT): อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำในโครงการ “985” และ “211” ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
- สถาบันอื่นๆ ที่น่าสนใจ: Jinan University รวมถึงมหาวิทยาลัยเฉพาะทางอย่าง Guangzhou Medical University และ Guangzhou University of Chinese Medicine ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจในสาขาเหล่านี้
เจาะลึกค่าใช้จ่ายฉบับนักศึกษา
กว่างโจวเป็นเมืองใหญ่ (Tier 1) ที่มีค่าครองชีพที่เป็นมิตรอย่างน่าทึ่ง
- ที่พัก: ค่าเช่าอพาร์ตเมนต์หนึ่งห้องนอนใจกลางเมืองถูกกว่าปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มาก โดยมีราคาตั้งแต่ 2,500 – 7,000 หยวน หอพักนักศึกษาก็มีให้เลือกหลากหลายและราคาไม่แพง
- อาหาร: นี่คือจุดเด่นที่สุด! อาหารในร้านทั่วไปมีราคาเพียง 10 – 40 หยวนต่อมื้อเท่านั้น
- งบประมาณโดยรวม: สามารถใช้ชีวิตในเมืองใหญ่นี้ได้อย่างสบายๆ ด้วยงบประมาณรายเดือนประมาณ 3,000 – 6,000 หยวน
- ค่าเล่าเรียน: ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่แข่งขันได้ โดยหลายหลักสูตรมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500 – 5,900 USD ต่อปี
การเตรียมตัวและเงื่อนไขการสมัคร
เกณฑ์การรับสมัครในกว่างโจวสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของสถาบัน
- เกณฑ์ HSK: แนวคิด “เกณฑ์ HSK ที่แตกต่างกันตามสายวิชา” ยังคงใช้ได้ที่นี่ โดย Guangzhou University กำหนด HSK 6 สำหรับสายศิลปศาสตร์ แต่ต้องการเพียง HSK 4 สำหรับสายวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ในขณะที่ Guangzhou Xinhua University อาจต้องการเพียง HSK 3 เป็นพื้นฐาน
- เอกสารที่ต้องเตรียม: ใช้เอกสารมาตรฐานทั่วไป ได้แก่ ใบสมัคร, พาสปอร์ต, ใบรับรองการศึกษา, ใบแสดงผลการเรียน, รูปถ่าย และใบรับรองสุขภาพ
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะเมืองท่าและเป็นที่ตั้งของงานแสดงสินค้า Canton Fair กว่างโจวจึงเป็นเมืองในอุดมคติสำหรับนักศึกษาที่มีหัวใจเป็นผู้ประกอบการหรือสนใจด้านการค้าระหว่างประเทศ, โลจิสติกส์ และการผลิต เมืองทั้งเมืองเปรียบเสมือนห้องเรียนมีชีวิตสำหรับสาขาเหล่านี้ การเลือกเรียนที่นี่จึงเป็นการตัดสินใจที่เน้น “การปฏิบัติจริง” และการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจโดยตรง
เคล็ดลับจากรุ่นพี่
- ตะลุยกิน: อย่าพลาดการไปลิ้มลองติ่มซำและอาหารกวางตุ้งต้นตำรับในย่านต่างๆ
- ภาษา: ลองเรียนรู้ประโยคง่ายๆ ในภาษากวางตุ้ง จะทำให้คนท้องถิ่นเอ็นดูและให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี
- เปิดโลกการค้า: หาโอกาสไปเดินชมตลาดค้าส่งต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพขนาดของการค้าในเมืองนี้
เฉิงตู (Chengdu) เมืองชิลล์ๆ ของเหล่าแพนด้าและหม่าล่า
พูดถึงเฉิงตู ทุกคนต้องนึกถึงแพนด้า หม้อไฟหม่าล่า และวิถีชีวิตที่ “สโลว์ไลฟ์” ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงครับ! เฉิงตูเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว บรรยากาศผ่อนคลาย ผู้คนเป็นมิตร และเป็นเมืองที่คุณภาพชีวิตสูงแต่ค่าครองชีพสบายกระเป๋า
- ข้อดี: ค่าครองชีพถูกมาก, บรรยากาศการใช้ชีวิตไม่เร่งรีบ, วัฒนธรรมอาหารที่โดดเด่น (โดยเฉพาะหม่าล่า), และเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์แพนด้า
- ข้อควรพิจารณา: อยู่ลึกเข้ามาในแผ่นดิน ทำให้มีความเป็นสากลน้อยกว่าเมืองชายฝั่ง, และรสชาติอาหารที่เผ็ดร้อนอาจต้องใช้เวลาปรับตัว
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ไม่ควรพลาด
แม้จะเป็นเมืองแห่งความชิลล์ แต่เฉิงตูก็มีมหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศ
- Sichuan University (SCU): เป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และติดอันดับ Top 10 ของประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยในโครงการ “985” ที่มีความเป็นเลิศในหลากหลายสาขาวิชา
- West China Medical Center (สังกัด SCU): นี่คือไฮไลท์สำคัญที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยครับ ที่นี่คือหนึ่งในคณะแพทยศาสตร์ที่ดีที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน ทำให้เฉิงตูเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับน้องๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นหมอ
เจาะลึกค่าใช้จ่ายฉบับนักศึกษา
เฉิงตูคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหาการศึกษาคุณภาพในงบประมาณที่จำกัด
ประมาณการค่าครองชีพรายเดือนในเฉิงตู (หน่วย: หยวน RMB)
| หมวดหมู่ค่าใช้จ่าย | ประมาณการค่าใช้จ่าย (ช่วง) | หมายเหตุและเคล็ดลับจากรุ่นพี่ |
| ที่พัก (แชร์อพาร์ตเมนต์) | 2,000 – 6,000 | ราคาใกล้เคียงกับเมืองรองอื่นๆ แต่สามารถหาที่พักคุณภาพดีในราคาไม่แพงได้ง่าย |
| อาหาร | 1,200 – 2,500 | ค่าอาหารและของสดถูกมาก (1,000-1,500 หยวน/เดือน) และอาหารท้องถิ่นราคาเป็นมิตร (25-50 หยวน/มื้อ) |
| การเดินทาง | ~200 | บัตรรายเดือนรถไฟใต้ดินยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า |
| สาธารณูปโภคและอินเทอร์เน็ต | 300 – 500 | ค่าใช้จ่ายมาตรฐาน |
| รวม (ไม่รวมค่าเทอม) | ~3,700 – 9,200 | เป็นเมืองที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก |
การเตรียมตัวและเงื่อนไขการสมัคร
การสมัครเรียนที่เฉิงตูมีข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐาน แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจ
- เกณฑ์ HSK: โดยทั่วไปต้องการ HSK 4 สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีที่สอนเป็นภาษาจีน
- เอกสารที่ต้องเตรียม: นอกจากเอกสารมาตรฐานแล้ว บางมหาวิทยาลัยยังสนับสนุนให้ยื่นผลสอบสากลอื่นๆ เช่น SAT/ACT/IB ควบคู่ไปด้วยหากมี สำหรับหลักสูตรการแพทย์อย่าง MBBS จะมีการเน้นย้ำเรื่องผลการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี และชีววิทยาเป็นพิเศษ และมักจะต้องใช้ Personal Statement ประกอบการสมัครด้วย
การเลือกเฉิงตูมักจะเป็นการตัดสินใจที่ให้ความสำคัญกับ “ไลฟ์สไตล์” เป็นอันดับแรก เมืองนี้มอบโอกาสในการศึกษาที่มีคุณภาพสูงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง SCU ควบคู่ไปกับสภาพแวดล้อมที่ไม่กดดันและค่าครองชีพที่ต่ำ ทำให้นักศึกษาสามารถทุ่มเทให้กับการเรียนได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็มีเวลาและงบประมาณเหลือเฟือที่จะสนุกกับการใช้ชีวิตและซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
เคล็ดลับจากรุ่นพี่
- เยี่ยมแพนด้า: ไปที่ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าในช่วงเช้าของวันธรรมดา จะได้เห็นน้องๆ แอคทีฟและน่ารักที่สุด
- เรื่องกินเรื่องใหญ่: ค่อยๆ เพิ่มระดับความเผ็ดของหม่าล่า! เริ่มจากสั่งแบบ “เวยล่า” (微辣 – เผ็ดน้อย) ก่อน
- สัมผัสวัฒนธรรม: ใช้เวลาช่วงบ่ายนั่งจิบชาในโรงน้ำชาที่สวนสาธารณะประชาชน (People’s Park) เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบเฉิงตูอย่างแท้จริง
คุนหมิง (Kunming) นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ เรียนสบายในอากาศดีๆ
คุนหมิงคือเมืองที่พี่คิดว่าใกล้ชิดกับเมืองไทยมากที่สุด ทั้งในแง่ของภูมิศาสตร์และบรรยากาศ ที่นี่ได้รับฉายาว่า “นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ” เพราะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นเมืองที่เงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ
- ข้อดี: ค่าครองชีพถูกที่สุดในบรรดา 6 เมืองนี้, อากาศดีตลอดปี, ธรรมชาติสวยงาม, และมีความใกล้ชิดกับประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ข้อควรพิจารณา: มีมหาวิทยาลัยระดับท็อปให้เลือกไม่มากเท่าเมืองอื่น, ความเจริญอาจไม่เท่าเมืองชายฝั่ง, และบรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบ
มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ไม่ควรพลาด
แม้จะไม่ใช่ศูนย์กลางการศึกษาหลัก แต่คุนหมิงก็มีสถาบันที่มีคุณภาพ
- Yunnan University (YNU): เป็นมหาวิทยาลัยที่ครอบคลุมและดีที่สุดในมณฑลยูนนาน มีหลักสูตรนานาชาติที่น่าสนใจ เช่น เศรษฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศ
- Kunming University of Science and Technology (KUST): เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในยูนนาน มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมศาสตร์และวัสดุศาสตร์ และมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติค่อนข้างมาก
เจาะลึกค่าใช้จ่ายฉบับนักศึกษา
ที่นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับน้องๆ ที่มีงบประมาณจำกัด
- ที่พัก: ราคาไม่แพงอย่างน่าทึ่ง! สามารถหาห้องพักเดี่ยวได้ในราคาประมาณ $158 – $236 USD ต่อเดือน (ประมาณ 1,100 – 1,700 หยวน) มีข้อมูลเปรียบเทียบว่าอพาร์ตเมนต์ที่เซี่ยงไฮ้ราคา $600 USD ต่อเดือน สามารถหาห้องขนาดเดียวกันได้ในคุนหมิงในราคาเพียง $125 USD
- ค่าเล่าเรียน: ถูกมากเช่นกัน ค่าเทอมระดับปริญญาตรีที่ YNU อยู่ที่ประมาณ 10,000 – 15,000 หยวนต่อปี ส่วนหลักสูตรภาษาจีนอยู่ที่ประมาณ 11,600 หยวนต่อปี
- งบประมาณโดยรวม: สามารถใช้ชีวิตในคุนหมิงได้อย่างสบายๆ ด้วยงบประมาณรายเดือนเพียง 2,500 – 4,500 หยวน
การเตรียมตัวและเงื่อนไขการสมัคร
เกณฑ์การรับสมัครของมหาวิทยาลัยในคุนหมิงค่อนข้างยืดหยุ่นและเข้าถึงง่าย
- คุณสมบัติ: โดยทั่วไปต้องการผู้สมัครที่ไม่ใช่พลเมืองจีน, มีสุขภาพแข็งแรง, และจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย
- เกณฑ์ภาษา: สำหรับหลักสูตรนานาชาติ อาจใช้เกณฑ์ IELTS 6.0 หรือ TOEFL 70 เป็นมาตรฐานอ้างอิง ส่วนหลักสูตรภาษาจีนคาดว่าจะต้องการ HSK 4 ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปของมหาวิทยาลัยในภูมิภาค
ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ใกล้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สุดในบรรดา 6 เมืองนี้ คุนหมิงจึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับเรียน “ใน” ประเทศจีน แต่ยังเป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ในการสำรวจทั้งภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและประเทศในกลุ่มอาเซียนอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักศึกษาที่สนใจด้านมานุษยวิทยา, สิ่งแวดล้อม, การท่องเที่ยว หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้ และยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักการเดินทางแบบประหยัด
เคล็ดลับจากรุ่นพี่
- ออกเดินทาง: ใช้คุนหมิงเป็นฐานในการเดินทางไปเที่ยวเมืองมรดกโลกอย่าง ต้าหลี่, ลี่เจียง และแชงกรี-ลา
- สัมผัสวัฒนธรรม: หาโอกาสไปเยี่ยมชมหมู่บ้านและตลาดของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในภูมิภาค
- เชื่อมต่ออาเซียน: รถไฟความเร็วสูงสายจีน-ลาวได้เปิดให้บริการแล้ว ทำให้การเดินทางจากคุนหมิงสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ 6 เมืองท็อป เลือกเมืองที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ
เพื่อให้เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พี่ได้สรุปข้อมูลสำคัญของทั้ง 6 เมืองไว้ในตารางนี้แล้วครับ
| เมือง | สไตล์/บรรยากาศ | ค่าครองชีพเฉลี่ย/เดือน (หยวน) | มหาวิทยาลัยเด่นและสาขาแนะนำ | HSK ขั้นต่ำ (ป.ตรี) | ข้อดีสำหรับเด็กไทย | ข้อควรพิจารณา |
| ปักกิ่ง | ศูนย์กลางการเมือง ประวัติศาสตร์ การศึกษา | 4,400 – 13,500+ | PKU, Tsinghua: ทุกสาขา โดยเฉพาะวิทย์, วิศวะ, ภาษา | HSK 3-6 (ตามสาขา) | โปรไฟล์ดีที่สุด, โอกาสระดับประเทศ | ค่าครองชีพสูง, แข่งขันสูง, หนาวจัด |
| เซี่ยงไฮ้ | มหานครโลกีย์ ทันสมัย ธุรกิจ แฟชั่น | 6,100 – 15,200+ | Fudan, SJTU: ธุรกิจ, เศรษฐศาสตร์, การแพทย์, วิศวะ | HSK 4-5 | โอกาสฝึกงาน/ทำงาน, สังคมอินเตอร์, ใช้ภาษาอังกฤษได้ | ค่าครองชีพสูงที่สุด, เร่งรีบ, ไม่ค่อยจีนดั้งเดิม |
| หางโจว | เทคโนโลยี+ธรรมชาติ สวยงาม คุณภาพชีวิตดี | 4,100 – 9,800 | Zhejiang University (ZJU): เทคโนโลยี, วิศวะ, บริหาร | HSK 4-5 | สมดุลชีวิตดี, ศูนย์กลางเทคฯ, สวยงามน่าอยู่ | เมืองเล็กกว่า, ความบันเทิงสากลน้อยกว่า |
| กว่างโจว | ศูนย์กลางการค้า อาหารอร่อย วัฒนธรรมกวางตุ้ง | 3,000 – 6,000 | SYSU, SCUT: การค้าระหว่างประเทศ, แพทยศาสตร์, วิศวะ | HSK 3-6 (ตามสาขา) | ค่าครองชีพถูก, อาหารอร่อย, ใกล้ไทย/ฮ่องกง | อากาศร้อนชื้น, มีการใช้ภาษากวางตุ้ง |
| เฉิงตู | สโลว์ไลฟ์ ผ่อนคลาย วัฒนธรรมอาหารเด่น | 3,700 – 9,200 | Sichuan University (SCU): แพทยศาสตร์ (West China), ศิลปศาสตร์ | HSK 4 | ค่าครองชีพถูกมาก, ไม่เครียด, อาหารอร่อย | อยู่ลึกในแผ่นดิน, อาจต้องปรับตัวเรื่องอาหารเผ็ด |
| คุนหมิง | อากาศดีตลอดปี ใกล้ชิดธรรมชาติ สงบ | 2,500 – 4,500 | Yunnan University (YNU): อาเซียนศึกษา, ท่องเที่ยว, ภาษา | HSK 4 (โดยประมาณ) | ค่าใช้จ่ายถูกที่สุด, อากาศดี, ใกล้ไทย, เหมาะกับคนรักธรรมชาติ | มหา’ลัยท็อปน้อย, เมืองเงียบกว่า |
ก้าวแรกสู่แผ่นดินมังกร อนาคตอยู่ในมือคุณ
การเดินทางนับพันลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรกเสมอ… และการตัดสินใจเลือกเมืองเรียนต่อก็คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดครับ พี่หวังว่าข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้จะช่วยให้น้องๆ เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าแต่ละเมืองมีเสน่ห์และโอกาสที่แตกต่างกันอย่างไร ไม่มีเมืองไหนที่ดีที่สุด มีแต่เมืองที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับเรา
การมาเรียนต่อที่จีนอาจจะมีความท้าทายบ้าง แต่พี่รับประกันได้เลยว่ามันคือประสบการณ์ที่คุ้มค่าและจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของน้องๆ ไปตลอดกาล ตอนนี้อนาคตอยู่ในมือน้องๆ แล้วครับ
พี่ขอทิ้งท้ายด้วยแผนปฏิบัติการ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริง:
- ประเมินตัวเอง (Self-Assessment): ถามตัวเองให้ชัดเจน “งบประมาณเราเท่าไหร่? สาขาในฝันของเราคืออะไร? เราชอบเมืองที่วุ่นวายหรือเมืองที่สงบ?” คำตอบเหล่านี้จะช่วยจำกัดตัวเลือกให้แคบลง
- เริ่มเตรียมภาษา (Start Your Language Prep): ไม่ว่าเป้าหมายของน้องจะเป็น HSK 4 สำหรับสายวิทย์ หรือ HSK 6 สำหรับสายศิลป์ การเตรียมตัวต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่ารอช้า!
- เจาะลึกมหาวิทยาลัย (Deep-Dive into Universities): เมื่อเลือกเมืองที่สนใจได้ 2-3 แห่งแล้ว ให้เข้าไปที่เว็บไซต์สำหรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยเป้าหมายโดยตรง (เช่น เว็บไซต์ของ Peking University หรือ Tsinghua University) เพื่อตรวจสอบกำหนดการรับสมัครและเอกสารที่ต้องใช้สำหรับสาขาของน้องๆ โดยเฉพาะ
ประตูสู่ประเทศจีนเปิดรออยู่ อนาคตที่สดใสก็กำลังรอน้องๆ อยู่เช่นกัน… จงกล้าที่จะก้าวออกมา แล้วเริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นครั้งนี้ได้เลย!