เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวจีนสำหรับนักท่องเที่ยวไทย

by admin

 

การเดินทางไปประเทศจีนสำหรับคนไทยได้เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว ด้วยนโยบายฟรีวีซ่าที่ทำให้แผ่นดินมังกรแห่งนี้ใกล้เรากว่าที่เคย แต่ถึงแม้การเดินทางจะสะดวกขึ้น การเตรียมตัวให้พร้อมยังคงเป็นกุญแจสำคัญสู่ทริปที่ราบรื่นและน่าประทับใจ เพราะจีนคือโลกอีกใบที่มีระบบนิเวศดิจิทัลและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คู่มือฉบับนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมที่ต้องรู้ ตั้งแต่การวางแผน การเดินทาง การใช้แอปพลิเคชัน ไปจนถึงมารยาททางสังคม เพื่อให้คุณก้าวเท้าเข้าสู่ประเทศจีนได้อย่างมั่นใจและเที่ยวสนุกเหมือนคนท้องถิ่น

 

ก้าวแรกที่สำคัญ วางแผนการผจญภัยในจีน

การวางแผนที่ดีคือรากฐานของทริปที่สมบูรณ์แบบ ส่วนนี้จะครอบคลุมขั้นตอนการเตรียมตัวที่สำคัญที่สุด ตั้งแต่เรื่องเอกสาร การเลือกช่วงเวลาเดินทาง ไปจนถึงการหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่คนเยอะที่สุด

ข่าวดี ฟรีวีซ่าไทย-จีน เข้าใจง่ายใน 5 นาที

นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา ประเทศไทยและจีนได้บรรลุข้อตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ข้อตกลงนี้มีเงื่อนไขสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจให้ดี

เงื่อนไขหลักที่ต้องรู้

  • ใครได้สิทธิ์: คนไทยผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา
  • อยู่ได้นานแค่ไหน: สามารถพำนักในประเทศจีนได้ครั้งละ ไม่เกิน 30 วัน
  • เงื่อนไขสำคัญ: ภายในระยะเวลา 180 วัน (ประมาณ 6 เดือน) จะต้องมีระยะเวลาพำนักในจีนรวมกันทั้งหมด ไม่เกิน 90 วัน กฎข้อนี้สำคัญมากเพื่อป้องกันการอยู่เกินกำหนด
  • วัตถุประสงค์: นโยบายฟรีวีซ่านี้ครอบคลุมการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัว หรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นเท่านั้น หากต้องการเดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น ทำงาน เรียนหนังสือ หรือพำนักระยะยาว ยังจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าประเภทที่ถูกต้องก่อนเดินทาง

เอกสารที่ต้องเตรียม แม้จะฟรีวีซ่า

แม้จะไม่ต้องขอวีซ่า แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยังมีสิทธิ์สอบถามและขอเอกสารเพิ่มเติมได้เสมอ ควรเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้พร้อม

  • หนังสือเดินทาง (Passport): ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันที่จะเดินทางเข้าประเทศจีน
  • ตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟ: ต้องมีหลักฐานการจองตั๋วเดินทางออกจากประเทศจีนที่ระบุวันเดินทางชัดเจน
  • หลักฐานการจองที่พัก: เอกสารยืนยันการจองโรงแรมตลอดระยะเวลาที่พำนักในจีน
  • เงินทุนสำรอง: ควรมีหลักฐานแสดงว่ามีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดทริป แม้จะไม่ค่อยถูกตรวจสอบ แต่การเตรียมพร้อมไว้ย่อมดีกว่า
  • การลงทะเบียนที่พัก: หากไม่ได้พักโรงแรม (เช่น พักบ้านเพื่อน) จะต้องไปรายงานตัวเพื่อลงทะเบียนที่พักอาศัยชั่วคราวกับสถานีตำรวจในพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเดินทางถึง สำหรับคนที่พักโรงแรม ทางโรงแรมจะดำเนินการส่วนนี้ให้โดยอัตโนมัติ

เที่ยวจีนช่วงไหนดีที่สุด ปักหมุดฤดูที่ใช่สำหรับคุณ

ประเทศจีนมีขนาดใหญ่และมีสภาพอากาศหลากหลาย การเลือกช่วงเวลาเดินทางที่เหมาะสมจึงส่งผลอย่างมากต่อประสบการณ์ท่องเที่ยว โดยทั่วไปแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนจีนคือ ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) เพราะอากาศจะเย็นสบาย อบอุ่น และไม่ค่อยมีฝน ทำให้เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองและธรรมชาติ

เจาะลึกแต่ละฤดู

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): เป็นช่วงที่ต้นไม้ใบหญ้าผลิบานสะพรั่ง อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการเดินป่า ปั่นจักรยาน หรือชมดอกไม้บานสะพรั่ง โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมที่มณฑลยูนนาน จะได้เห็นดอกกุหลาบพันปีบานเต็มหุบเขาอย่างงดงาม

  • ฤดูใบไม้ร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): อากาศจะร้อนและชื้น มีฝนตกชุก โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกและภาคใต้ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของคนจีน ทำให้สถานที่ต่างๆ คลาคลั่งไปด้วยผู้คนและราคาที่พักตั๋วเดินทางจะสูงขึ้น หากจะเที่ยวช่วงนี้ แนะนำให้ไปล่องเรือแม่น้ำแยงซี หรือขึ้นไปเที่ยวบนพื้นที่ภูเขาสูงทางตอนเหนือของยูนนานซึ่งอากาศจะเย็นกว่า
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): เป็นอีกหนึ่งช่วงไฮไลท์ที่อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใส และแห้งสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด และยังเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ แต่ต้องระวังวันหยุดยาว Golden Week ในเดือนตุลาคม

  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): อากาศจะหนาวจัด โดยเฉพาะทางภาคเหนืออย่างปักกิ่งและฮาร์บิน รวมถึงภาคตะวันตกอย่างทิเบต แต่ข้อดีคือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น นักท่องเที่ยวจะน้อยมาก ทำให้เที่ยวชมสถานที่สำคัญอย่างกำแพงเมืองจีนได้อย่างสบายๆ ไฮไลท์ของฤดูนี้คือเทศกาลน้ำแข็งและหิมะที่เมืองฮาร์บินอันโด่งดัง

 

 หลีกเลี่ยงช่วง “Golden Week” ถ้าไม่อยากเจอคลื่นมหาชน

“Golden Week” คือช่วงวันหยุดยาวประจำชาติของจีนที่คนจีนหลายร้อยล้านคนจะออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศพร้อมกัน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมหาศาล ทั้งตั๋วเครื่องบิน รถไฟ และโรงแรมจะถูกจองเต็มล่วงหน้าเป็นเวลานาน ราคาจะพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว และสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งจะแน่นขนัดไปด้วยคลื่นมหาชน การเดินทางในช่วงนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากและควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับปี 2568 มีความพิเศษคือ เทศกาลไหว้พระจันทร์ได้ถูกรวมเข้ากับวันหยุดวันชาติ ทำให้มีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 8 วันในเดือนตุลาคม ซึ่งคาดว่าจะทำให้การเดินทางหนาแน่นยิ่งกว่าเดิม

วันหยุดยาวของจีน ปี 2568 ที่ควรเลี่ยง

เทศกาลวันที่จำนวนวันหยุด
ตรุษจีน28 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์8 วัน
วันแรงงาน1 – 5 พฤษภาคม5 วัน
วันชาติและเทศกาลไหว้พระจันทร์1 – 8 ตุลาคม8 วัน

 

การเดินทางสู่จีนและการเดินทางภายในประเทศ

ส่วนนี้จะแนะนำวิธีการเดินทางไปและเดินทางภายในประเทศจีนอย่างละเอียด โดยเน้นวิธีที่สะดวกและง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

บินตรงสู่แดนมังกร สายการบินและเมืองน่าไป

ปัจจุบันมีสายการบินจำนวนมากให้บริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (ทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง) ไปยังเมืองใหญ่ๆ ของจีน ทำให้การเดินทางสะดวกสบายและมีตัวเลือกหลากหลาย

  • สายการบิน Full-Service: การบินไทย (Thai Airways), แอร์ไชน่า (Air China), ไห่หนาน แอร์ไลน์ (Hainan Airlines), ไชน่า เซาเทิร์น (China Southern), ไชน่า อีสเทิร์น (China Eastern)
  • สายการบิน Low-Cost: ไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia), ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air), สปริงแอร์ไลน์ (Spring Airlines)

เส้นทางบินตรงยอดนิยม:

  • กรุงเทพฯ – ปักกิ่ง (PEK/PKX)
  • กรุงเทพฯ – เซี่ยงไฮ้ (PVG)
  • กรุงเทพฯ – กว่างโจว (CAN)
  • กรุงเทพฯ – เซินเจิ้น (SZX)
  • กรุงเทพฯ – เฉิงตู (TFU)
  • กรุงเทพฯ – คุนหมิง (KMG)

เคล็ดลับ: แนะนำให้ใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินอย่าง Skyscanner หรือ Google Flights เพื่อค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุด แต่เมื่อเจอเที่ยวบินที่ถูกใจแล้ว อาจลองเข้าไปตรวจสอบราคาในเว็บไซต์ของสายการบินโดยตรงอีกครั้ง

 

พิชิตรถไฟความเร็วสูง จองตั๋วง่ายๆ แม้พูดจีนไม่ได้

รถไฟความเร็วสูงของจีน (高铁 gāotiě) คือวิธีการเดินทางระหว่างเมืองที่ทันสมัย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

วิธีการจองตั๋ว:

  • ช่องทางทางการ (12306): เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการของ China Railway ปัจจุบันมีเวอร์ชันภาษาอังกฤษและรองรับบัตรเครดิตต่างชาติแล้ว แต่ขั้นตอนการสมัครและยืนยันตัวตนอาจค่อนข้างซับซ้อนสำหรับชาวต่างชาติ
  • ช่องทางที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว (Trip.com): แพลตฟอร์มอย่าง Trip.com ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีหน้าจอการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบ มีบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการชำระเงินจากต่างประเทศหลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญคือไม่ต้องสมัครบัญชี 12306 ให้ยุ่งยาก เมื่อจองเสร็จจะได้รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ทางอีเมลทันที

ข้อมูลสำคัญ:

  • สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้สูงสุด 15 วัน แนะนำให้รีบจองโดยเฉพาะเส้นทางยอดนิยมหรือช่วงสุดสัปดาห์
  • ต้องใช้ ชื่อ-นามสกุลภาษาอังกฤษให้ตรงตามหน้าหนังสือเดินทางทุกตัวอักษร พร้อมหมายเลขหนังสือเดินทางในการจอง
  • การขึ้นรถไฟ: ปัจจุบันไม่มีตั๋วกระดาษแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) สแกนที่ประตูทางเข้า เพื่อขึ้นรถไฟได้เลย ควรเผื่อเวลาไปถึงสถานีล่วงหน้าพอสมควรเพื่อผ่านขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยซึ่งคล้ายกับที่สนามบิน

 

เรียก DiDi อย่างโปร แอปเรียกรถที่ต้องมีในจีน

DiDi (滴滴 dīdī) คือแอปพลิเคชันเรียกรถที่เปรียบเสมือน Uber หรือ Grab ของประเทศจีน และเป็นแอปที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางในเมือง

การตั้งค่าสำหรับชาวต่างชาติ:

  • ดาวน์โหลดแอป “DiDi: Ride Hailing in China” และสมัครใช้งานด้วยเบอร์โทรศัพท์ไทยได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้เบอร์จีน
  • ผูกบัตรเครดิต/เดบิตต่างชาติ (Visa/Mastercard) หรือบัญชี Alipay/WeChat Pay ที่ตั้งค่าไว้แล้ว เพื่อการชำระเงินอัตโนมัติที่สะดวกสบาย การใช้เงินสดเป็นเรื่องที่พบได้น้อยมากและคนขับไม่นิยม

เคล็ดลับขั้นสูง: การใช้ “แอปซ้อนแอป”

หนึ่งในความสะดวกสบายของระบบนิเวศดิจิทัลในจีนคือการรวมบริการต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน คุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอป DiDi แยกต่างหากก็ได้ เพราะสามารถเรียกใช้บริการ DiDi ได้โดยตรงจากภายในแอป Alipay และ WeChat ซึ่งมักจะสะดวกและเสถียรมากกว่า การตั้งค่าแอปจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวจึงเท่ากับว่าคุณได้แอปเรียกรถมาใช้งานด้วยโดยอัตโนมัติ เป็นการลดความยุ่งยากในการจัดการหลายแอป

วิธีการใช้งาน DiDi:

  • ใส่จุดหมายปลายทาง (สามารถใช้ภาษาอังกฤษหรือพินอินสำหรับสถานที่สำคัญๆ ได้ แต่การมีที่อยู่เป็นภาษาจีนจะแม่นยำที่สุด)
  • เลือกประเภทรถ: Express (快车 kuàichē) เป็นตัวเลือกมาตรฐานและราคาถูกที่สุด
  • เมื่อคนขับมาถึง ให้ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถให้ตรงกับในแอป และยืนยันตัวตนด้วยการโชว์ เลข 4 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์ ของคุณให้คนขับดู

 

โลกดิจิทัลของจีน แอป การจ่ายเงิน และการเชื่อมต่อ

นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางไปจีนในยุคปัจจุบัน เพราะจะอธิบายวิธีเอาชนะอุปสรรคทางดิจิทัล ทั้งเรื่องการถูกบล็อกอินเทอร์เน็ตและสังคมไร้เงินสด

โลกดิจิทัลหลังกำแพงเมืองจีนและวิธีเอาตัวรอด

ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับ “The Great Firewall of China” (GFW) ซึ่งเป็นระบบเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ของรัฐบาลจีนที่ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจากต่างประเทศจำนวนมาก บริการที่ถูกบล็อก ได้แก่ Google (ทั้ง Search, Maps, Gmail), Facebook, Instagram, WhatsApp, YouTube, X (Twitter), LINE และเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศส่วนใหญ่

การจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้างเหมือนในประเทศไทยนั้น นักท่องเที่ยวมีสองทางเลือกหลัก ซึ่งการตัดสินใจเลือกจะขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือด้วยวิธีใด การทำความเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณวางแผนได้ถูกต้องและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด

 

ทางเลือกที่ 1: ใช้ VPN เมื่อต่อ Wi-Fi หรือซิมจีน

  • VPN คืออะไร: VPN (Virtual Private Network) คือบริการที่จะเข้ารหัสข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณและส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ในประเทศอื่น ทำให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในจีนได้
  • คำเตือนที่สำคัญที่สุด: คุณ ต้อง ดาวน์โหลดและสมัครใช้บริการ VPN ก่อนเดินทางไปประเทศจีน เท่านั้น เพราะเมื่อไปถึงจีนแล้ว คุณจะไม่สามารถเข้า Google Play Store หรือ App Store เพื่อดาวน์โหลดแอปเหล่านี้ได้อีก
  • VPN ที่แนะนำสำหรับจีน (ปี 2568): ไม่ใช่ทุก VPN จะใช้งานในจีนได้ดี รัฐบาลจีนพยายามบล็อก VPN อยู่เสมอ จากข้อมูลล่าสุด บริการที่ยังใช้งานได้ดีและเป็นที่นิยมได้แก่:
    • Surfshark: มักถูกยกให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในภาพรวม ทั้งด้านความเร็ว ความง่ายในการใช้งาน และความเสถียรในจีน
    • NordVPN: เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้และปลอดภัยสูง มีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากใกล้ประเทศจีน
    • ExpressVPN: เป็นตัวเลือกระดับพรีเมียมที่มีความปลอดภัยสูงและมีทีมงานคอยดูแลให้สามารถใช้งานในจีนได้โดยเฉพาะ
  • การซื้อซิมท้องถิ่น: คุณสามารถซื้อซิมการ์ดของค่าย China Mobile, China Unicom หรือ China Telecom ได้ที่สนามบินหรือช็อปทางการของค่ายนั้นๆ โดยต้องใช้หนังสือเดินทางในการลงทะเบียน วิธีนี้เป็นตัวเลือกที่ได้ดาต้าราคาถูกที่สุด แต่ต้องแลกมากับการที่ต้องเปิดใช้ VPN ทุกครั้งที่ต้องการเข้าแอปที่ถูกบล็อก

 

ทางเลือกที่ 2: ทางลัดไม่ต้องง้อ VPN ด้วย eSIM และ Roaming

นี่คือทางลัดที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว การเปิดใช้บริการโรมมิ่งระหว่างประเทศจากซิมไทย หรือการซื้อ eSIM สำหรับเดินทางไปจีน จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงทุกแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกได้ โดยไม่ต้องใช้ VPN

สาเหตุเป็นเพราะทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตของคุณจะถูกส่งกลับมายังเซิร์ฟเวอร์นอกประเทศจีนก่อน ทำให้ไม่ผ่านระบบการกรองของ GFW

  • eSIM: คือซิมดิจิทัลที่คุณสามารถติดตั้งลงในโทรศัพท์ที่รองรับได้ล่วงหน้าก่อนเดินทาง เป็นวิธีที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง
  • ผู้ให้บริการ eSIM ที่แนะนำ:
    • Airalo: ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลาย
    • Nomad: มีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่นและเชื่อมต่อกับเครือข่ายท้องถิ่นที่เชื่อถือได้อย่าง China Unicom
    • Saily: เป็นตัวเลือกใหม่จากผู้สร้าง NordVPN มีจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยและแพ็กเกจที่น่าสนใจ
    • Gigago: บางแพ็กเกจสำหรับประเทศจีนของเจ้านี้ จะมี VPN ติดตั้งมาให้ในตัว เป็นโซลูชันแบบสองในหนึ่ง

วิธีนี้เป็นทางเลือกที่สะดวกและไร้ปัญหากวนใจที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีที่เครื่องลงจอด โทรศัพท์ของคุณจะทำงานเหมือนตอนอยู่ที่ไทยทุกประการ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้ซิมท้องถิ่นคู่กับ VPN

 

สังคมไร้เงินสด สมัครและใช้ Alipay/WeChat Pay ฉบับสมบูรณ์

ต้องย้ำว่าจีนเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง การชำระเงินผ่านมือถือถูกใช้ในทุกที่และทุกอย่าง ตั้งแต่ร้านอาหารหรูไปจนถึงแผงขายของข้างทาง การพกเงินสดจำนวนมากจึงไม่จำเป็นและไม่สะดวก

  • Alipay (支付宝 zhīfùbǎo) vs WeChat Pay (微信支付 wēixìn zhīfù): ทั้งสองแอปจำเป็นต้องมี แต่โดยทั่วไปแล้ว Alipay จะตั้งค่าง่ายและเป็นมิตรกับชาวต่างชาติมากกว่า และมีฟังก์ชันทางการเงินที่ครอบคลุมกว่า

ขั้นตอนการตั้งค่า (ควรทำก่อนออกจากประเทศไทย):

  1. ดาวน์โหลด: โหลดแอป Alipay และ WeChat จาก App Store หรือ Google Play Store ของคุณ
  2. สมัครใช้งาน: ลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์ไทยของคุณ แอปจะส่งรหัสยืนยัน (SMS) มาให้
  3. เพิ่มบัตรเครดิต/เดบิต: ไปที่เมนู “Me” -> “Bank Cards” แล้วเพิ่มข้อมูลบัตร Visa หรือ Mastercard ของคุณ
  4. ยืนยันตัวตน: คุณจะต้องยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายรูปหนังสือเดินทาง (Passport) ซึ่งเป็นขั้นตอนบังคับเพื่อความปลอดภัยและเพื่อเพิ่มวงเงินในการทำธุรกรรม

วิธีการจ่ายเงิน:

  • สแกน QR Code ของร้านค้า: เปิดแอปแล้วกด “Scan” เพื่อสแกน QR Code ของร้านค้า (Alipay สีฟ้า, WeChat Pay สีเขียว) จากนั้นใส่จำนวนเงินและรหัสผ่านเพื่อจ่าย
  • โชว์ QR Code ของเรา: สำหรับร้านค้าใหญ่ๆ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้กดปุ่ม “Pay/Receive” เพื่อแสดง QR Code ส่วนตัวของคุณให้แคชเชียร์สแกน

ข้อควรรู้เพิ่มเติม:

  • อาจมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมประมาณ 3% สำหรับการจ่ายเงินครั้งเดียวที่มียอดเกิน 200 หยวน
  • บัตรต่างชาติไม่สามารถใช้โอนเงินให้บุคคลอื่น (Peer-to-peer) หรือส่งอั่งเปา (红包 hóngbāo) ได้

ขณะที่กฎหมายจีนกำหนดให้ร้านค้าต้องรับเงินสด แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่สะดวกอย่างยิ่ง ร้านค้าอาจไม่มีเงินทอน และทำให้กระบวนการช้าลง แนะนำให้พกเงินสด (หยวน) ติดตัวไว้เล็กน้อยสำหรับกรณีฉุกเฉิน แต่ให้วางแผนใช้จ่ายผ่านมือถือเป็นหลัก 99%

 

แอปที่ต้องมีติดเครื่อง แผนที่, จองโรงแรม, หาของกิน

การมีแอปพลิเคชันที่เหมาะสมจะช่วยให้การเดินทางในจีนง่ายขึ้นอย่างมาก นี่คือรายการแอปที่จำเป็นซึ่งคัดสรรมาแล้วสำหรับนักท่องเที่ยว

สุดยอดแอปที่ต้องมีในจีน (The Ultimate China App Toolkit)

ประเภทชื่อแอปทำไมต้องมี
จ่ายเงิน/โซเชียลAlipay (支付宝) & WeChat (微信)เป็นกระดูกสันหลังของชีวิตประจำวันในจีน ใช้สำหรับจ่ายเงิน, ส่งข้อความ, เรียกรถแท็กซี่ (DiDi) และแม้กระทั่งสั่งอาหาร
แผนที่Amap / Gaode Maps (高德地图)เป็นแอปแผนที่ท้องถิ่นที่แม่นยำที่สุด แนะนำ Amap มากกว่า Baidu Maps เพราะมีภาษาอังกฤษรองรับมากกว่าและหน้าตาใช้งานง่ายกว่า (Google Maps ถูกบล็อกและข้อมูลไม่แม่นยำ)
เรียกรถDiDi (滴滴)เปรียบเสมือน Uber/Grab ของจีน ใช้งานสะดวกที่สุดผ่าน Mini-program ที่อยู่ในแอป Alipay หรือ WeChat
จองตั๋ว/โรงแรมTrip.comจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการจองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน และรถไฟความเร็วสูง หน้าจอเป็นภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบและออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ
แปลภาษาGoogle Translate / Plecoขาดไม่ได้สำหรับการสื่อสาร ใช้ฟังก์ชันกล้องเพื่อแปลเมนูอาหารและป้ายต่างๆ Pleco เป็นพจนานุกรมออฟไลน์ที่ยอดเยี่ยม
หาของกิน/รีวิวDianping (大众点评)เหมือน Yelp หรือ TripAdvisor ของจีน ใช้หาร้านอาหารอร่อย, ดูรีวิว และค้นพบว่าคนท้องถิ่นนิยมกินอะไรกัน หน้าจอเป็นภาษาจีน แต่สามารถใช้ฟังก์ชันแปลภาพหน้าจอช่วยได้

 

มารยาทและวัฒนธรรมที่ควรรู้

การทำความเข้าใจและเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่นจะช่วยให้คุณสร้างความประทับใจที่ดีและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ

มารยาทบนโต๊ะอาหาร กินอย่างไรให้ดูโปร

  • การนั่ง: เจ้าภาพหรือผู้ที่อาวุโสที่สุดจะเป็นผู้เริ่มนั่งก่อน โดยมักจะนั่งในที่นั่งเกียรติยศซึ่งหันหน้าไปทางประตู ควรรอให้เจ้าภาพเชิญนั่งก่อน
  • การเริ่มมื้ออาหาร: ห้ามเริ่มทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มก่อนที่เจ้าภาพหรือผู้อาวุโสที่สุดจะเริ่ม
  • ตะเกียบ: ห้ามปักตะเกียบไว้กลางถ้วยข้าวเด็ดขาด เพราะมีลักษณะเหมือนการปักธูปไหว้ผู้เสียชีวิตและถือเป็นลางร้ายอย่างยิ่ง ห้ามใช้ตะเกียบชี้หน้าคนอื่นหรือใช้ทำท่าทางต่างๆ
  • การตักอาหาร: อาหารส่วนใหญ่จะเสิร์ฟแบบ Family-style คือมีจานกลางหลายๆ ใบวางบนโต๊ะหมุน (Lazy Susan) ให้ใช้ตะเกียบกลางหรือช้อนกลางที่ให้มาตักอาหารมาใส่ถ้วยของตัวเอง ห้ามใช้ตะเกียบส่วนตัวตักอาหารจากจานกลาง
  • การทานจนหมด: การทานอาหารเหลือไว้เล็กน้อยในจานถือเป็นมารยาทที่ดี เพื่อแสดงให้เจ้าภาพเห็นว่าได้จัดเตรียมอาหารไว้อย่างเพียงพอและคุณอิ่มแล้ว การทานจนเกลี้ยงจานอาจสื่อความหมายว่าเจ้าภาพเตรียมอาหารไว้ไม่พอ
  • การดื่มอวยพร (干杯 gānbēi): เป็นเรื่องปกติในมื้ออาหาร เมื่อมีคนดื่มอวยพรให้คุณ ควรหยุดทานอาหารและให้ความสนใจ และเมื่อคุณดื่มอวยพรให้ผู้ที่อาวุโสกว่า ควรยกแก้วให้ต่ำกว่าแก้วของเขาเพื่อแสดงความเคารพ

 

เรื่องของการให้ทิป ให้หรือไม่ให้

  • กฎโดยทั่วไป: การให้ทิป ไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติ และโดยทั่วไปไม่ทำกันในจีนแผ่นดินใหญ่
  • ทำไมการให้ทิปอาจดูไม่สุภาพ: เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความขี้เหนียว แต่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีและ “การรักษาหน้า” (面子 miànzi) การให้ทิปโดยที่ผู้รับไม่ได้คาดหวังอาจถูกมองว่าเป็นการให้ทาน หรือสื่อว่าบุคคลนั้นได้รับค่าจ้างไม่เพียงพอ ซึ่งอาจสร้างความอับอายหรือขุ่นเคืองใจได้ การทำความเข้าใจตรรกะทางวัฒนธรรมนี้จะช่วยป้องกันการสร้างสถานการณ์ทางสังคมในแง่ลบโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • ข้อยกเว้น (กรณีที่ให้ได้):
    • ไกด์ทัวร์และคนขับรถ: สำหรับทัวร์ส่วนตัวหรือกลุ่มเล็กๆ การให้ทิปแก่ไกด์และคนขับรถกลายเป็นเรื่องปกติและเป็นที่ยอมรับกัน โดยทั่วไปแนะนำให้ทิปไกด์ประมาณ 100 หยวนต่อวัน และให้คนขับรถครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น
    • โรงแรมหรูระดับนานาชาติ: พนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมเครือตะวันตกขนาดใหญ่อาจคุ้นเคยกับการได้รับทิปเล็กๆ น้อยๆ (เช่น 10-20 หยวน)
  • หลักการง่ายๆ: หากไม่แน่ใจ ไม่ต้องให้ทิป การกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ (谢谢 xièxiè) เป็นวิธีที่ดีที่สุดเสมอ

 

ต่อราคาแบบเซียน ศิลปะการช็อปปิ้งในตลาดจีน

การต่อรองราคาไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับ แต่ยังเป็นสิ่งที่ พ่อค้าแม่ค้าคาดหวังและมองว่าเป็นเรื่องสนุก ในตลาดต่างๆ (เช่น ตลาดนักท่องเที่ยว, ตลาดเสื้อผ้า) การต่อรองราคาถูกมองว่าเป็นความฉลาดและเป็นปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนุก ไม่ใช่การทำตัวขี้เหนียว

  • สถานที่ที่ควรต่อราคา: ตลาดและร้านค้าอิสระเล็กๆ ห้าม ต่อราคาในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านค้าแบรนด์เนมที่มีป้ายราคาชัดเจน
  • เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ:
    1. อย่าเชื่อราคาแรก: ราคาที่ผู้ขายบอกครั้งแรกมักจะสูงกว่าความเป็นจริงเสมอ
    2. เริ่มจากราคาต่ำๆ: ไม่ใช่เรื่องเสียมารยาทที่จะเสนอราคาที่ 10-30% ของราคาที่เขาบอก แล้วค่อยๆ ต่อรองขึ้นไป
    3. ใช้ความเป็นมิตร: ยิ้มแย้ม สุภาพ และมองว่ามันเป็นเกม ถ้าคุณเริ่มโมโหหรือดูถูกสินค้า คุณจะแพ้ทันที
    4. ชี้จุดบกพร่อง: การพูดถึงตำหนิเล็กๆ น้อยๆ ของสินค้าอย่างสุภาพจะช่วยให้คุณมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
    5. ท่าไม้ตาย “เดินหนี”: เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุด หากผู้ขายไม่ยอมลดราคาให้ตามที่คุณต้องการ ให้กล่าวขอบคุณอย่างสุภาพแล้วทำท่าจะเดินจากไป บ่อยครั้งที่พวกเขาจะเรียกคุณกลับมาพร้อมกับราคาที่ดีที่สุด
    6. ใช้เงินสด: ผู้ขายอาจเต็มใจที่จะลดราคาให้มากขึ้นหากชำระด้วยเงินสด

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: การทักทาย การให้ของ และการให้เกียรติ

  • การทักทาย: การพยักหน้าเล็กน้อยหรือการจับมือแบบเบาๆ เป็นเรื่องปกติ ควรทักทายผู้ที่อาวุโสที่สุดหรือมีตำแหน่งสูงสุดก่อนเสมอเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ ใช้คำว่า “Nín hǎo” (您好) กับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นทางการและสุภาพกว่า “Nǐ hǎo” (你好)
  • การให้และรับของ: ควรใช้ สองมือ เสมอในการให้หรือรับสิ่งของใดๆ (ของขวัญ, นามบัตร, เงิน) เพื่อแสดงความเคารพ
  • การให้ของขวัญ: เมื่อได้รับของขวัญ เป็นมารยาทที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพหนึ่งหรือสองครั้งก่อนจะรับ และโดยทั่วไปจะไม่เปิดของขวัญต่อหน้าผู้ให้ หลีกเลี่ยงการให้ของขวัญที่เป็นนาฬิกา ของมีคม หรือของที่เป็นชุดจำนวน 4 ชิ้น (เลข 4 พ้องเสียงกับคำว่า “ตาย”)
  • การรักษาหน้า (面子 miànzi): หลีกเลี่ยงการทำให้ใครต้องอับอายในที่สาธารณะหรือการเผชิญหน้าโดยตรง การวิจารณ์คนอื่นต่อหน้าสาธารณะหรือการแสดงความโกรธถือเป็นข้อห้ามทางสังคมที่สำคัญ
  • คำถามส่วนตัว: อย่าแปลกใจถ้าคนท้องถิ่นถามคำถามส่วนตัวเกี่ยวกับอายุ สถานะสมรส หรืองานของคุณ บ่อยครั้งที่นี่เป็นวิธีการหาจุดร่วมและแสดงความสนใจ ไม่ใช่การก้าวก่าย

 

คลังศัพท์และวลีฉบับพกพา เที่ยวสนุกขึ้นเมื่อสื่อสารได้

แม้ว่าในเมืองใหญ่ๆ จะมีคนพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่การเรียนรู้และพยายามใช้ภาษาจีนขั้นพื้นฐานจะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น และยังเป็นการแสดงความเคารพต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย

วลีภาษาจีนจำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว (Essential Chinese Phrases for Tourists)

Englishอักษรจีนพินอินคำอ่านภาษาไทยคำแปล
Greetings & Basics (ทักทายและคำพื้นฐาน)
Hello你好nǐ hǎoหนี ห่าวสวัสดี
Hello (formal, for elders)您好nín hǎoหนิน ห่าวสวัสดี (ทางการ/ใช้กับผู้ใหญ่)
Thank you谢谢xièxièเซี่ย เซี่ยขอบคุณ
You’re welcome不客气bú kèqìปู๋ เค่อ ฉิไม่เป็นไร / ด้วยความยินดี
Sorry / Excuse me对不起duìbùqǐตุ้ย ปู้ ฉี่ขอโทษ
My name is…我叫…wǒ jiào…หว่อ เจี้ยว…ฉันชื่อ…
I don’t understand我不懂wǒ bù dǒngหว่อ ปู้ ต่งฉันไม่เข้าใจ
Goodbye再见zàijiànไจ้ เจี้ยนลาก่อน
Asking for Help & Directions (ถามทางและขอความช่วยเหลือ)
Where is the bathroom?洗手间在哪里?xǐshǒujiān zài nǎlǐ?สี โส่ว เจียน ไจ้ หน่า หลี่ห้องน้ำอยู่ที่ไหน
Can you help me?你能帮帮我吗?nǐ néng bāng bāng wǒ ma?หนี่ เหนิง ปาง ปาง หว่อ มะคุณช่วยฉันได้ไหม
How do I get to…?我怎么去…?wǒ zěnme qù…?หว่อ เจิ่น เมอะ ชวี่…ฉันจะไป…ได้อย่างไร
Turn left左转zuǒ zhuǎnจั่ว จ่วนเลี้ยวซ้าย
Turn right右转yòu zhuǎnโย่ว จ่วนเลี้ยวขวา
Go straight直走zhí zǒuจื๋อ โจ่วตรงไป
Shopping & Bargaining (ซื้อของและต่อราคา)
How much is this?这个多少钱?zhège duōshǎo qián?เจ้อ เกอะ ตัว ส่าว เฉียนอันนี้ราคาเท่าไหร่
Too expensive太贵了tài guì leไท่ กุ้ย เลอแพงเกินไป
Can you make it cheaper?可以便宜一点吗?kěyǐ piányí yīdiǎn ma?เขอ อี่ เผียน อี อี้ เตี่ยน มะถูกกว่านี้หน่อยได้ไหม
I want to buy this我要买这个wǒ yào mǎi zhègeหว่อ เย่า หม่าย เจ้อ เกอะฉันต้องการซื้ออันนี้
Receipt小票xiǎopiàoเสี่ยว เพี่ยวใบเสร็จ
Dining & Ordering Food (สั่งอาหาร)
Menu菜单càidānไช่ ตานเมนู
I want this one我要这个wǒ yào zhègeหว่อ เย่า เจ้อ เกอะฉันเอาอันนี้
Delicious好吃hǎo chīห่าว ชืออร่อย
Bill, please买单mǎidānหม่าย ตานเช็คบิล
I’m a vegetarian我是吃素的wǒ shì chīsù deหว่อ ซื่อ ชือ ซู่ เตอะฉันเป็นมังสวิรัติ
Not spicy不要辣bú yào làปู๋ เย่า ล่าไม่เผ็ด
Watershuǐสุ่ยน้ำ
Beer啤酒píjiǔผี จิ่วเบียร์
Transportation (การเดินทาง)
Taxi出租车chūzūchēชู จู เชอแท็กซี่
Train station火车站huǒchē zhànหั่ว เชอ จ้านสถานีรถไฟ
Airport机场jīchǎngจี ฉ่างสนามบิน
Bus公车gōngchēกง เชอรถบัส
Ticketpiàoเพี่ยวตั๋ว
Numbers (ตัวเลข)
1-10 yī èr sān sì wǔ liù qī bā jiǔ shíอี เอ้อ ซาน ซื่อ อู่ ลิ่ว ชี ปา จิ่ว สือ1-10
100bǎiป่าย100
1000qiānเชียน1000

You may also like