ก้าวข้ามกำแพงเมืองจีนและเดอะบันด์
เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวประเทศจีน ภาพจำของหลายคนอาจเป็นความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีน กองทัพทหารดินเผาในซีอาน หรือแสงสีตระการตาของตึกระฟ้าบนเดอะบันด์ในเซี่ยงไฮ้ สถานที่เหล่านี้คือสัญลักษณ์อันทรงพลังของจีนที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากคุณกำลังมองหาการผจญภัยที่ลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อสัมผัสจิตวิญญาณที่แท้จริงของแผ่นดินมังกร บทความนี้คือประตูที่จะนำคุณไปสู่ Unseen China ดินแดนที่ซ่อนเร้นอยู่หลังม่านของเมืองใหญ่ ที่ซึ่งธรรมชาติรังสรรค์ทิวทัศน์เหนือจินตนาการ หมู่บ้านโบราณที่กาลเวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง และวัฒนธรรมอันหลากหลายที่ยังคงมีชีวิตชีวา
สถานที่ที่เราคัดสรรมาทั้ง 10 แห่งนี้อาจไม่ใช่ “ความลับ” สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่สำหรับนักเดินทางชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนใหญ่แล้ว สถานที่เหล่านี้ยังคงเป็นเหมือนอัญมณีที่รอการค้นพบ นี่คือความน่าสนใจของคำว่า “Unseen” ที่ไม่ได้หมายความว่าปราศจากผู้คน แต่หมายถึงการเปิดมุมมองใหม่ๆ สู่สถานที่ที่งดงามและน่าทึ่ง ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นประเทศจีนในมิติที่แตกต่างออกไป เป็นการเดินทางที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่และเผยให้เห็นอีกด้านของจีนที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปกับ 10 สุดยอดพิกัดลับ ที่จะทำให้คุณอยากจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่วันนี้
10 สุดยอดพิกัดลับ
1. หุบเขาว่างเซียน 望仙谷 (Wangxian Valley), เจียงซี หมู่บ้านเทพเซียนบนหน้าผาที่เหมือนหลุดจากโลกนิยาย
หากคุณเคยจินตนาการถึงหมู่บ้านในหนังจีนกำลังภายในหรือโลกแห่งเทพเซียนที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา หุบเขาว่างเซียนคือสถานที่ที่ทำให้จินตนาการนั้นกลายเป็นจริง ที่นี่คือหมู่บ้านที่สร้างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์บนหน้าผาสูงชัน ราวกับถูกแขวนลอยอยู่กลางอากาศ ท่ามกลางเสียงน้ำตกที่ไหลซัดสาดลงมาสู่เบื้องล่าง สถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณที่สร้างขึ้นใหม่ผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ถนนหนทางที่ปูด้วยหิน สะพานที่ทอดข้ามลำธาร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามค่ำคืน เมื่อทั้งหุบเขาถูกประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีสัน ที่นี่จะกลายเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายที่งดงามจนแทบหยุดหายใจ
แม้ว่าว่างเซียนจะไม่ใช่หมู่บ้านโบราณที่เก่าแก่ตามประวัติศาสตร์ แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยเปลี่ยนจากเหมืองร้างให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ แนวคิดนี้สะท้อนถึงเทรนด์การท่องเที่ยวร่วมสมัยของจีนที่นำสุนทรียศาสตร์แบบดั้งเดิมมาตีความใหม่ให้มีความน่าตื่นตาตื่นใจและเหมาะกับการถ่ายภาพในยุคโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความสวยงาม แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงและการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง
ทำไมต้องไป?
- ชมสถาปัตยกรรมสุดอลังการ (Witness Breathtaking Architecture): ตื่นตาตื่นใจไปกับบ้านเรือนที่สร้างลดหลั่นตามหน้าผา (Cliffside Hanging Houses) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามแบบโบราณ
- เดินเล่นบนถนนโบราณและสะพานกระจก (Stroll Ancient Streets and a Glass Bridge): เดินทอดน่องบนถนนโบราณเหยียนผู่ (Yanpu Old Street) และท้าทายความกล้าบนสะพานกระจกยาว 388 เมตร ที่ลอยอยู่เหนือพื้นดินเกือบ 100 เมตร
- ดื่มด่ำวัฒนธรรมและกิจกรรมพื้นบ้าน (Immerse in Culture and Folk Activities): ชมการแสดงงิ้วแบบดั้งเดิม เข้าร่วมปาร์ตี้รอบกองไฟยามค่ำคืน หรือลองทำงานฝีมืออย่างการแกะสลักไม้และการสานตะกร้าไม้ไผ่
- ล่องแก่งสุดระทึก (Experience Thrilling Canyon Rafting): สำหรับสายแอดเวนเจอร์ พลาดไม่ได้กับการล่องแก่งระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ที่มีความสูงต่างระดับถึง 185 เมตร สร้างความตื่นเต้นเร้าใจตลอดเส้นทาง
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | เมืองว่างเซียน (Wangxian Town), เมืองซ่างเหรา (Shangrao City), มณฑลเจียงซี (Jiangxi Province) |
การเดินทาง | นั่งรถไฟความเร็วสูงไปลงที่สถานีซ่างเหรา (Shangrao Railway Station) จากนั้นต่อรถบัสท้องถิ่นหรือแท็กซี่ไปยังหุบเขา (ประมาณ 1.5 ชั่วโมง) |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) อากาศดีที่สุด ควรไปถึงช่วงบ่ายเพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | แนะนำให้พักค้างคืนที่เกสต์เฮาส์ในเมืองว่างเซียนที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งราคาประหยัดกว่าโรงแรมในหุบเขา และสามารถนั่งรถชัทเทิลบัสเข้าไปได้สะดวก ทำให้คุณได้ชมแสงสียามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องรีบร้อน |
2. อุทยานธรณีวิทยาจางเย่ตันเสีย 张掖丹霞国家地质公园 (Zhangye Danxia Geopark), กานซู่ ภูเขาสายรุ้งแห่งแดนมังกร
ลืมภาพภูเขาสีเขียวชอุ่มหรือสีน้ำตาลแบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะที่อุทยานธรณีวิทยาจางเย่ตันเสีย คุณจะได้พบกับ “ภูเขาสายรุ้ง” (Rainbow Mountains) ที่จะทำให้คุณต้องทึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่นี่ไม่ใช่ภาพวาดแต่เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาของจริงที่เกิดจากการทับถมของชั้นหินทรายและแร่ธาตุต่างๆเป็นเวลานานหลายล้านปี การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของลมฝนได้สร้างสรรค์ให้เกิดเป็นภูเขาสีแดงเพลิงสลับกับริ้วลายหลากสีสัน ทั้งเหลือง เขียว ฟ้า และม่วง พาดผ่านไปตามแนวสันเขา เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามแปลกตาราวกับหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง
ความงามอันเป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้จางเย่ตันเสียได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และได้รับการยกย่องจากสื่อจีนว่าเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุดของประเทศ การมาเยือนที่นี่เปรียบเสมือนการได้เห็นผลงานศิลปะชิ้นเอกที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเอง
ทำไมต้องไป?
- ชมความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา (Witness a Geological Marvel): สัมผัสหนึ่งในภูมิทัศน์ที่มีสีสันที่สุดในโลกด้วยตาของคุณเอง สถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO
- ถ่ายภาพสุดเหนือจริง (Capture Surreal Photographs): ที่นี่คือสวรรค์ของช่างภาพ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน แสงแดดจะขับให้สีสันของภูเขาโดดเด่นและงดงามที่สุด
- สำรวจผ่านเส้นทางที่สะดวกสบาย (Explore with Ease): อุทยานมีการจัดการที่ดีเยี่ยม มีรถบัสบริการและทางเดินไม้ (Boardwalk) เชื่อมต่อไปยังจุดชมวิวต่างๆ ทำให้สามารถเข้าถึงความงามได้อย่างสะดวกสบาย
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | อำเภอหลินเจ๋อ (Linze) และซู่หนาน (Sunan), เมืองจางเย่ (Zhangye City), มณฑลกานซู่ (Gansu Province) |
การเดินทาง | บินหรือนั่งรถไฟไปลงที่เมืองจางเย่ (Zhangye) จากนั้นต่อแท็กซี่หรือรถบัสจากสถานีขนส่งจางเย่ตะวันตก (Zhangye West Bus Station) ไปยังอุทยาน (ประมาณ 1.5 ชั่วโมง) |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย.-มิ.ย.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-ต.ค.) อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ควรหลีกเลี่ยงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมซึ่งเป็นวันหยุดยาวประจำชาติ |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | ควรไปเยือนช่วงบ่ายแก่ๆ เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดิน เพราะแสงแดดที่ทำมุมต่ำจะขับสีสันของภูเขาให้สดชัดและงดงามที่สุด ตั๋วเข้าชมมักมีอายุหลายวัน คุณจึงสามารถกลับมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันถัดไปได้อีกด้วย |
3. หมู่บ้านโบราณหงชุน 宏村月沼 (Hongcun Village), อันฮุย: หมู่บ้านในภาพวาดที่กาลเวลาหยุดนิ่ง
หมู่บ้านโบราณหงชุนคือสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “หมู่บ้านในภาพวาดพู่กันจีน” ที่นี่คือภาพสะท้อนของจีนในยุคโบราณที่ยังมีลมหายใจ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฮุยโจวอันเป็นเอกลักษณ์ บ้านเรือนกำแพงสีขาว หลังคากระเบื้องสีดำ ตั้งเรียงรายสะท้อนเงาบนผืนน้ำนิ่งสงบของสระจันทร์เสี้ยว (Moon Pond) และทะเลสาบหนานหู (South Lake) หมู่บ้านแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี และมีผังหมู่บ้านที่ออกแบบตามรูปทรงของ “วัว” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง “Crouching Tiger, Hidden Dragon” อีกด้วย
ความงดงามของหงชุนนั้นมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับเทือกเขาหวงซาน (Huangshan) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจและเป็นที่มาของความมั่งคั่งของพ่อค้าชาวฮุยผู้สร้างหมู่บ้านแห่งนี้ สถาปัตยกรรมของหงชุนจึงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่โดยรอบ การมาเยือนหงชุนจึงมักจะควบคู่ไปกับการเดินทางสู่หวงซานเสมอ เป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ
ทำไมต้องไป?
- ย้อนยุคสู่สมัยหมิงและชิง (Step Back to the Ming and Qing Dynasties): สำรวจบ้านโบราณกว่า 140 หลังที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ รวมถึงคฤหาสน์เฉิงจื้อถัง (Chengzhi Hall) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระราชวังแห่งสามัญชน”
- สัมผัสสถาปัตยกรรมฮุยโจว (Experience Huizhou Architecture): ชื่นชมสถาปัตยกรรมที่เป็นมรดกโลก ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบที่กลมกลืนกับสายน้ำและขุนเขา
- เก็บภาพเงาสะท้อนน้ำอันงดงาม (Photograph Picturesque Reflections): ถ่ายภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน ซึ่งมีเงาสะท้อนบนผืนน้ำของทะเลสาบหนานหูและสระจันทร์เสี้ยวรูปพระจันทร์ครึ่งวงกลม
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | อำเภออี้เซี่ยน (Yixian County), เมืองหวงซาน (Huangshan City), มณฑลอันฮุย (Anhui Province) |
การเดินทาง | จากตัวเมืองหวงซาน (ทุนซี) หรือสถานีรถไฟความเร็วสูงหวงซานเหนือ สามารถนั่งรถบัสตรงไปยังหมู่บ้านหงชุนได้เลย (ประมาณ 1.5 ชั่วโมง) |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) เป็นช่วงที่อากาศดีและทิวทัศน์สวยงามที่สุด |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | วางแผนเที่ยวหงชุนควบคู่ไปกับการขึ้นเขาหวงซาน (Yellow Mountains) และแนะนำให้พักค้างคืนในหมู่บ้านหงชุน เพื่อสัมผัสความสงบในยามเช้าตรู่ก่อนที่กรุ๊ปทัวร์จะมาถึง |
4. หมู่บ้านแม้วพันครัวเรือนซีเจียง 西江千户苗寨夜景 (Xijiang Qianhu Miao Village), กุ้ยโจว: สัมผัสวัฒนธรรมชาวแม้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ซีเจียงคือพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชาวแม้ว (ม้ง) ที่มีชีวิต ที่นี่คือหมู่บ้านของชาวแม้วที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและในโลก ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือบ้านไม้ทรงสูงที่เรียกว่า “เตี้ยวเจี่ยวโหล” (Diaojiaolou) นับพันหลังที่สร้างลดหลั่นกันลงมาตามไหล่เขา ก่อเกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามและยิ่งใหญ่เกินบรรยาย บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตั้งแต่ประเพณีต้อนรับด้วย “เหล้า 12 ด่าน” (12 shots of rice wine) เสียงดนตรีจากเครื่องเป่า “หลูเซิง” ไปจนถึงเครื่องเงินแวววาวที่ประดับประดาบนเครื่องแต่งกายของหญิงสาวชาวแม้ว
การมาเยือนซีเจียงเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมที่ถูกนำเสนออย่างครบวงจร แม้จะเป็นหมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริง แต่ก็ได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก มีการจัดแสดงทางวัฒนธรรม ถนนการค้า และพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่นี่จึงเปรียบเสมือน “เวทีจัดแสดงที่มีชีวิต” ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงและเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวแม้วได้อย่างสนุกสนานและน่าประทับใจ
ทำไมต้องไป?
- ชมทิวทัศน์หมู่บ้านเรือนไม้สุดตระการตา (See the Spectacular View of Wooden Houses): ชมภาพหมู่บ้านชาวแม้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่บ้านทุกหลังจะเปิดไฟสว่างไสว สร้างบรรยากาศที่งดงามราวกับฉากในภาพยนตร์เรื่อง “Spirited Away”
- ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมชาวแม้ว (Immerse in Miao Culture): สัมผัสประสบการณ์ “โต๊ะยาวเลี้ยงแขก” (Long Table Banquet) ชมการแสดงร้องรำทำเพลงพื้นเมือง และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชาวแม้วซีเจียง
- เรียนรู้ประเพณีการต้อนรับ (Experience the Welcome Ceremony): รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยประเพณี “เหล้า 12 ด่าน” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และแสดงถึงน้ำใจของชาวแม้ว
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | อำเภอเหลยซาน (Leishan County), จังหวัดปกครองตนเองเฉียนตงหนาน (Qiandongnan Prefecture), มณฑลกุ้ยโจว (Guizhou Province) |
การเดินทาง | เมืองที่ใกล้ที่สุดคือไคลี (Kaili) จากสถานีรถไฟความเร็วสูงไคลีใต้ (Kaili South Railway Station) สามารถต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังซีเจียงได้ (ประมาณ 1 ชั่วโมง) |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) อากาศดีที่สุด หากมาช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ของชาวแม้ว (ม.ค.) จะได้สัมผัสวัฒนธรรมที่พิเศษยิ่งขึ้น |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | ตั๋วเข้าชมจะรวมค่ารถชัทเทิลบัส 4 เที่ยว ควรวางแผนการเดินทางให้ดี หากต้องการวิวที่สวยที่สุด ควรเลือกพักที่เกสต์เฮาส์บริเวณกลางเขา และควรจองโต๊ะยาวเลี้ยงแขกล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงเทศกาล |
5. เมืองโบราณเฟิ่งหวง 凤凰古城夜景 (Fenghuang Ancient Town), หูหนาน: เมืองหงส์ฟ้าแห่งลำน้ำถัวเจียง
เฟิ่งหวง หรือ “เมืองหงส์ฟ้า” ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่สวยที่สุดของจีน ภาพของแม่น้ำถัวเจียงที่ไหลเอื่อยๆ ผ่านกลางเมือง บ้านไม้โบราณทรงสูง (เตี้ยวเจี่ยวโหล) ที่ตั้งเรียงรายริมสองฝั่งน้ำ หญิงชราชาวบ้านที่ยังคงซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ และตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหิน คือมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักเดินทางต้องมาเยือน แต่ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงจะปรากฏในยามค่ำคืน เมื่อบ้านเรือนและโคมไฟสีแดงถูกจุดขึ้นพร้อมกัน แสงไฟสะท้อนบนผืนน้ำ ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นดินแดนในเทพนิยายที่โรแมนติกและน่าจดจำ
เฟิ่งหวงเป็นตัวอย่างคลาสสิกของสถานที่ที่โด่งดังมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน แต่ยังคงเป็น “Unseen” สำหรับนักเดินทางชาวไทยจำนวนมาก ปัจจุบันการเดินทางมายังเฟิ่งหวงสะดวกสบายขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูงแห่งใหม่ “เฟิ่งหวงกู่เฉิง” (Fenghuang Gucheng) ทำให้สามารถเดินทางจากเมืองใหญ่อย่างฉางซา หรือแม้แต่จางเจียเจี้ยได้อย่างง่ายดาย โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยนี้ได้เปิดประตูให้เพชรเม็ดงามแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายที่เข้าถึงได้ง่าย และเปลี่ยนความฝันในการมาเยือนให้กลายเป็นความจริงได้ในทันที
ทำไมต้องไป?
- ล่องเรือในแม่น้ำถัวเจียง (Take a Boat Trip on the Tuojiang River): สัมผัสบรรยากาศของเมืองจากมุมมองบนผืนน้ำ ล่องเรือผ่านบ้านโบราณใต้สะพานเก่าแก่ และซึมซับทิวทัศน์ที่งดงามราวบทกวี
- เดินข้ามสะพานหงเฉียวและสะพานหิน (Cross the Hong Bridge and Stepping Stones): ชื่นชมสถาปัตยกรรมของสะพานสายรุ้ง (Hong Bridge) และสนุกกับการเดินข้ามแม่น้ำบนสะพานหินที่เรียงเป็นขั้นๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
- สำรวจเมืองยามค่ำคืน (Explore the Town at Night): ชมเฟิ่งหวงแปลงโฉมเป็นดินแดนมหัศจรรย์ยามค่ำคืน เมื่อแสงไฟจากบ้านเรือนและโคมไฟสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและน่าประทับใจ
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | อำเภอเฟิ่งหวง (Fenghuang County), จังหวัดปกครองตนเองเซียงซี (Xiangxi Prefecture), มณฑลหูหนาน (Hunan Province) |
การเดินทาง | นั่งรถไฟความเร็วสูงไปลงที่สถานีเฟิ่งหวงกู่เฉิง (Fenghuanggucheng Station) จากนั้นต่อรถชัทเทิลบัส รถแม็กเลฟ หรือแท็กซี่เข้าเมืองโบราณ (ประมาณ 20 นาที) สามารถเดินทางจากจางเจียเจี้ยด้วยรถไฟได้ใน 1 ชั่วโมง |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) อากาศจะดีที่สุด ควรหลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาวของจีนเพื่อเลี่ยงความแออัด |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | แนะนำให้วางแผนเที่ยวเฟิ่งหวงควบคู่ไปกับอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย รถไฟความเร็วสูงสายใหม่ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อสองสถานที่นี้สะดวกมาก เหมาะสำหรับทริป 5-7 วัน เพื่อชมสองสุดยอดทิวทัศน์ที่แตกต่างกันของมณฑลหูหนาน |
6. นาขั้นบันไดหยวนหยาง 元阳梯田日出 (Yuanyang Rice Terraces), ยูนนาน บันไดสู่สวรรค์ของชาวฮานี
นาขั้นบันไดหยวนหยางคือผลงานศิลปะเกษตรกรรมชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่และน่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่ชาวฮานีได้ใช้เวลากว่า 1,300 ปีในการแกะสลักภูเขาทั้งลูกให้กลายเป็นนาขั้นบันไดกว่า 3,000 ขั้น ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงจะปรากฏในช่วงฤดูที่ผืนนาเต็มไปด้วยน้ำ (ปลายปีถึงต้นปี) เมื่อนาขั้นบันไดทั้งหมดจะกลายเป็นกระจกเงาผืนยักษ์นับพันชิ้น สะท้อนภาพท้องฟ้าและแสงอาทิตย์ เกิดเป็นภาพโมเสกหลากสีสันที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งวัน
ทิวทัศน์ของหยวนหยางไม่ใช่เพียงความงามทางธรรมชาติ แต่เป็นภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถแยกออกจากวิถีชีวิตของชาวฮานีผู้สร้างสรรค์มันขึ้นมาได้ “บ้านเห็ด” อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวฮานีก็เป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์ที่งดงามนี้เช่นกัน การเดินทางมายังพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้ ซึ่งต้องใช้เวลาขับรถยาวนานจากคุนหมิง ทำให้การมาเยือนหยวนหยางเปรียบเสมือนการเดินทางแสวงบุญที่ให้รางวัลแก่นักเดินทางผู้ทุ่มเท มากกว่าการแวะเที่ยวชมแบบผิวเผิน
ทำไมต้องไป?
- ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ตั๋วอีซู่ (Watch the Sunrise at Duoyishu): ร่วมเป็นสักขีพยานของหนึ่งในภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุดในโลก เมื่อแสงแรกของวันสาดส่องลงบนผืนนานับพันที่เต็มไปด้วยน้ำ
- ชมพระอาทิตย์ตกที่ป้าต้า (Watch the Sunset at Bada): ชมผืนนาเปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดงฉานยามพระอาทิตย์ตกดิน ณ จุดชมวิวป้าต้าที่กว้างใหญ่ไพศาล
- สำรวจหมู่บ้านชาวฮานี (Explore Hani Villages): เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวฮานีแบบดั้งเดิม เช่น ชิงโข่ว (Qingkou) หรือ อาเจ๋อเคอ (Azheke) เพื่อชม “บ้านเห็ด” อันเป็นเอกลักษณ์ และสัมผัสวัฒนธรรมของผู้คนที่สร้างสรรค์ภูมิทัศน์อันน่าทึ่งนี้
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | อำเภอหยวนหยาง (Yuanyang County), จังหวัดปกครองตนเองหงเหอ (Honghe Prefecture), มณฑลยูนนาน (Yunnan Province) |
การเดินทาง | บินไปลงที่คุนหมิง (Kunming) จากนั้นต่อรถบัสระยะไกล (6-8 ชั่วโมง) หรือเช่ารถส่วนตัวไปยังเมืองซินเจีย (Xinjie) ซึ่งเป็นเมืองหลักของหยวนหยาง |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน เป็นช่วงที่ผืนนาเต็มไปด้วยน้ำ ทำให้เกิดภาพสะท้อนเหมือนกระจกเงา เหมาะแก่การถ่ายภาพที่สุด |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | แนะนำให้เช่ารถพร้อมคนขับสำหรับ 1-2 วัน เนื่องจากจุดชมวิวต่างๆ อยู่ห่างกัน และระบบขนส่งสาธารณะมีจำกัด คนขับท้องถิ่นจะรู้เวลาและจุดที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตก |
7. วัดแขวนหน้าผา 悬空寺 (Hanging Temple), ซานซี อารามลอยฟ้าสุดอัศจรรย์
วัดแขวนหน้าผา หรือ เสวียนคงซื่อ (Xuankong Si) คือสถาปัตยกรรมที่ท้าทายกฎแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างแท้จริง อารามแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างน่าอัศจรรย์บนหน้าผาสูงชันของภูเขาเหิงซาน ห่างจากพื้นดินกว่า 50 เมตร สิ่งที่น่าทึ่งคือ วัดแห่งนี้ยืนหยัดท้าทายลมฝนและกาลเวลามากว่า 1,500 ปี โดยไม่ได้อาศัยเสาไม้ที่มองเห็นจากด้านล่างเป็นตัวค้ำยันหลัก แต่ใช้คานไม้ที่สอดลึกเข้าไปในเนื้อหินของหน้าผาเป็นโครงสร้างสำคัญ
การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้เห็นความสามารถทางวิศวกรรมอันน่าทึ่งของคนโบราณ แต่ยังจะได้สัมผัสกับความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการเป็นวัดแห่งเดียวในจีนที่ผสมผสานความเชื่อของ 3 ศาสนาหลัก ได้แก่ พุทธ เต๋า และขงจื๊อ เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ทำไมต้องไป?
- ทึ่งในวิศวกรรมโบราณ (Be Amazed by Ancient Engineering): ชมความมหัศจรรย์ของวัดที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งยืนหยัดอยู่บนหน้าผามานานนับศตวรรษ เป็นข้อพิสูจน์ถึงภูมิปัญญาอันล้ำเลิศของคนโบราณ
- สัมผัสความสามัคคีแห่ง 3 ศาสนา (Experience the Unity of Three Religions): ค้นพบวัดอันเป็นเอกลักษณ์ที่รวมเอาศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื๊อไว้ในที่เดียว โดยมีรูปเคารพของศาสดาทั้งสามประดิษฐานอยู่ในโถงเดียวกัน
- เดินบนทางเดินลอยฟ้า (Walk on Sky-High Pathways): สัมผัสความตื่นเต้นของการเดินไปตามทางเดินไม้แคบๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารต่างๆ ของวัด โดยมีหุบเหวลึกอยู่เบื้องล่าง
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | อำเภอฮุยหยวน (Hunyuan County), เมืองต้าถง (Datong City), มณฑลซานซี (Shanxi Province) |
การเดินทาง | จากตัวเมืองต้าถง (Datong) สามารถนั่งรถบัสหรือเช่ารถส่วนตัว/แท็กซี่ไปยังวัดได้ (ประมาณ 1.5 ชั่วโมง) |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย.-มิ.ย.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) อากาศดี หากต้องการเลี่ยงคิวยาว ควรไปในวันธรรมดา หรือไปถึงแต่เช้าตรู่ |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | จำนวนนักท่องเที่ยวที่สามารถขึ้นไปบนตัววัดได้มีจำกัดอย่างเข้มงวด ควรจองตั๋วสำหรับขึ้นชม (ราคา 100 หยวน) ล่วงหน้าทางออนไลน์ โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว หากกลัวความสูง สามารถซื้อตั๋วเข้าชมจากด้านล่าง (ราคา 15 หยวน) เพื่อถ่ายรูปสวยๆ ได้เช่นกัน |
8. เขาฝานจิ้ง 梵净山红云金顶 (Mount Fanjingshan), กุ้ยโจว ยอดเขาแห่งพุทธะและทะเลหมอก
เขาฝานจิ้งคือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาและมรดกโลกโดย UNESCO ที่มีทิวทัศน์ราวกับดินแดนในฝัน ยอดเขาหินทรายที่ดูแปลกตาตั้งตระหง่านอยู่เหนือทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วหุบเขา สร้างบรรยากาศที่ลึกลับและงดงามเกินบรรยาย จุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือ “ยอดเขาเมฆาแดง” (Red Clouds Golden Summit) ซึ่งเป็นยอดเขาที่แตกออกเป็นสองส่วน มีวัดตั้งอยู่บนยอดแต่ละฝั่งและเชื่อมต่อกันด้วยสะพานเล็กๆ และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ “หินเห็ด” (Mushroom Rock) ที่มีรูปร่างเหมือนเห็ดยักษ์ ตั้งอยู่อย่างท้าทายบนขอบหน้าผา
การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาฝานจิ้งเปรียบเสมือนการเดินทางสู่สรวงสวรรค์ ไม่ว่าจะเลือกเดินขึ้นบันไดกว่า 8,000 ขั้น หรือนั่งกระเช้าลอยฟ้า ก็ล้วนแต่มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่หาชมจากที่อื่นไม่ได้
ทำไมต้องไป?
- พิชิตยอดเขาเมฆาแดง (Conquer the Red Clouds Golden Summit): ปีน “บันไดสู่สวรรค์” (หรือนั่งกระเช้า) ขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งและลึกลับราวกับอยู่ในแดนสุขาวดี
- ชมความงามของหินเห็ด (Admire the Mushroom Rock): ชมหินรูปทรงแปลกตาอันเป็นสัญลักษณ์ของเขาฝานจิ้ง ที่ดูเหมือนเห็ดยักษ์ซึ่งตั้งอยู่อย่างสมดุลบนขอบหน้าผา
- ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ (Immerse in Rich Biodiversity): สำรวจระบบนิเวศที่สมบูรณ์และเป็นที่อยู่ของสัตว์หายาก เช่น ลิงจมูกเชิดกุ้ยโจว (Guizhou snub-nosed monkey)
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | เมืองถงเหริน (Tongren City), มณฑลกุ้ยโจว (Guizhou Province) |
การเดินทาง | นั่งรถไฟความเร็วสูงไปลงที่สถานีถงเหริน (Tongren Station) จากนั้นเดินไปยังสถานีขนส่งที่อยู่ติดกันเพื่อต่อรถชัทเทิลบัสไปยังประตูทางเข้าทิศตะวันออกของเขาฝานจิ้ง (ประมาณ 1.5 ชั่วโมง) 53 |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน อากาศมักจะมีหมอกและฝนตก ซึ่งกลับช่วยเสริมบรรยากาศให้ภูเขามีความลึกลับและงดงามยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาวของจีน 53 |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | แนะนำให้นั่งกระเช้าขึ้นไปเพื่อประหยัดแรงไว้สำหรับเดินสำรวจไฮไลท์บนยอดเขา การปีนขึ้นยอดเขาเมฆาแดงค่อนข้างชันและต้องใช้โซ่เหล็กช่วยพยุงตัว ควรใส่รองเท้ากันลื่นและเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตไปด้วยเพราะอากาศบนยอดเขาค่อนข้างเย็น 56 |
9. ภูเขาทรายหมิงซาและทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว 月牙泉鸣沙山 (Mingsha Shan & Crescent Lake), กานซู่ โอเอซิสกลางใจทะเลทราย
ที่นี่คือภาพของทะเลทรายบนเส้นทางสายไหมในจินตนาการที่กลายเป็นจริง ภูเขาทรายหมิงซา หรือ “ภูเขาทรายร้องได้” คือสันทรายขนาดมหึมาที่เมื่อลมพัดผ่านจะเกิดเสียงหึ่งๆ คล้ายเสียงดนตรี แต่ใจกลางความแห้งแล้งนี้กลับมีสิ่งมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ นั่นคือ ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว หรือ เยว่หยาฉวน (Yueyaquan) โอเอซิสรูปพระจันทร์เสี้ยวสีมรกตที่ดำรงอยู่มานานนับพันปีโดยไม่เคยถูกทรายกลบฝัง ทะเลสาบแห่งนี้เปรียบเสมือน “ดวงตาแห่งทะเลทราย” ที่มอบชีวิตชีวาและความหวังให้แก่ดินแดนอันเวิ้งว้าง
การมาเยือนที่นี่คือการได้สัมผัสประสบการณ์บนเส้นทางสายไหมอย่างแท้จริง ตั้งแต่การขี่อูฐทอดน่องไปตามสันทราย การเล่นกระดานทราย ไปจนถึงการเฝ้ามองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เปลี่ยนผืนทรายให้กลายเป็นสีทองอร่าม
ทำไมต้องไป?
- ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตก (Ride a Camel at Sunset): สัมผัสประสบการณ์คลาสสิกบนเส้นทางสายไหม ด้วยการขี่อูฐไปตามสันทรายยามพระอาทิตย์ตกดิน เกิดเป็นภาพเงาซิลลูเอทที่งดงามจนยากจะลืมเลือน
- ชมความมหัศจรรย์ของโอเอซิส (Witness the Miracle of the Oasis): ตื่นตาตื่นใจกับทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว แหล่งน้ำสีมรกตที่อยู่รอดกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่ได้อย่างน่าอัศจรรย์
- สนุกกับกิจกรรมในทะเลทราย (Enjoy Desert Activities): ท้าทายความสนุกด้วยการเล่นกระดานทราย (Sand Sliding) ไหลลงมาจากยอดเนินทราย หรือขับรถมอเตอร์ไซค์ตะลุยทะเลทราย
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | ห่างจากตัวเมืองตุนหวง (Dunhuang City) ไปทางใต้ 6 กิโลเมตร, มณฑลกานซู่ (Gansu Province) |
การเดินทาง | สถานที่อยู่ใกล้ตัวเมืองตุนหวงมาก สามารถนั่งรถบัสสาย 3 หรือแท็กซี่จากใจกลางเมืองไปได้ในเวลาไม่นาน |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ควรเข้าไปในอุทยานช่วงบ่ายแก่ๆ (ประมาณ 17:00 น.) เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนตอนกลางวัน และรอชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | ตั๋วเข้าชมมีอายุ 3 วัน หลังจากชมพระอาทิตย์ตกแล้ว คุณสามารถกลับมาอีกครั้งในเช้าวันถัดไปเพื่อชมบรรยากาศที่แตกต่าง อย่าลืมแว่นกันแดด หมวก และครีมกันแดด |
10. เมืองโบราณคัชการ์ 喀什古城 (Kashgar Old City), ซินเจียง: จิตวิญญาณแห่งเส้นทางสายไหม
คัชการ์คือจิตวิญญาณของเส้นทางสายไหมที่ยังมีลมหายใจ ที่นี่คือชุมทางการค้าและวัฒนธรรมโบราณที่ซึ่งอิทธิพลของเอเชียกลางและจีนมาบรรจบกันอย่างลงตัว เมืองเก่าคัชการ์เปรียบเสมือนเขาวงกตที่มีชีวิต ตรอกซอกซอยแคบๆ ที่ปูด้วยอิฐนำทางเราผ่านบ้านดินแบบดั้งเดิม โรงช่างฝีมือที่ยังคงทำงานคึกคัก และตลาดที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา การได้นั่งจิบชาในโรงน้ำชาเก่าแก่อายุนับร้อยปี หรือเยี่ยมชมมัสยิดอีฎีกะฮ์ (Id Kah Mosque) ศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของเมือง คือการได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่จับต้องได้
เมืองเก่าคัชการ์นำเสนอภาพของ “ความจริงแท้” ที่ซับซ้อน ที่นี่เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็ผ่านการบูรณะและสร้างขึ้นใหม่โดยภาครัฐ ประสบการณ์ที่ได้รับจึงไม่ใช่แค่การชมโบราณสถานที่หยุดนิ่ง แต่เป็นการได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มีชีวิตชีวาและไม่หยุดนิ่ง ทำให้คัชการ์เป็นจุดหมายปลายทางที่ลึกซึ้งและกระตุ้นความคิด เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความเข้าใจทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง
ทำไมต้องไป?
- หลงทางในตรอกซอกซอย (Get Lost in the Labyrinthine Alleys): เดินสำรวจไปตามถนนที่คดเคี้ยวราวกับเขาวงกต เพื่อค้นพบลานบ้านที่ซ่อนอยู่ โรงช่างฝีมือ และวิถีชีวิตประจำวันของชาวอุยกูร์
- จิบชาในโรงน้ำชาอายุร้อยปี (Sip Tea in a Century-Old Teahouse): เยี่ยมชมโรงน้ำชาแบบดั้งเดิมเพื่อพักผ่อน ชมผู้คน และซึมซับบรรยากาศที่แท้จริงของเส้นทางสายไหมที่กาลเวลาไม่อาจเปลี่ยนแปลง
- สัมผัสวัฒนธรรมอุยกูร์ที่ยังมีชีวิต (Experience Living Uyghur Culture): เยี่ยมชมมัสยิดอีฎีกะฮ์ ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในซินเจียง และร่วมเป็นสักขีพยานของวัฒนธรรมที่รุ่งเรืองมานานหลายศตวรรษ ณ ชุมทางการค้าประวัติศาสตร์แห่งนี้
กล่องเครื่องมือนักเดินทาง
หัวข้อ | รายละเอียด |
ที่ตั้ง | เมืองคัชการ์ (Kashgar City), เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (Xinjiang Uyghur Autonomous Region) |
การเดินทาง | บินหรือนั่งรถไฟไปยังเมืองคัชการ์ เมืองเก่าตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางไปได้ง่ายด้วยรถบัสท้องถิ่นหรือแท็กซี่ |
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด | สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงอากาศจะดีที่สุดสำหรับการเดินสำรวจเมือง |
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ | เมืองเก่าเป็นเหมือนเขาวงกต ลองสังเกตพื้นอิฐ: อิฐรูปหกเหลี่ยมจะนำคุณออกจากเมืองเก่า ส่วนอิฐรูปสี่เหลี่ยมจะนำไปสู่ทางตัน (เป็นเคล็ดลับของคนท้องถิ่น) ควรใส่รองเท้าที่สบายเพราะต้องเดินเยอะมาก |
การผจญภัยของคุณเริ่มต้นแล้ว
จากหมู่บ้านเทพเซียนบนหน้าผาแห่งว่างเซียน สู่ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์เหนือทะเลหมอกที่ฝานจิ้งซาน และโอเอซิสกลางใจทะเลทรายบนเส้นทางสายไหม ทั้ง 10 สถานที่นี้คือข้อพิสูจน์ว่าความมหัศจรรย์ของประเทศจีนนั้นกว้างไกลและลึกซึ้งกว่าที่เราเคยรู้จัก การเดินทางสู่พิกัดลับเหล่านี้คือการก้าวข้ามภาพจำเดิมๆ และเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ สถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง และวัฒนธรรมที่หลากหลายและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา
หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะจุดประกายแรงบันดาลใจและปลุกจิตวิญญาณนักเดินทางในตัวคุณ อย่าปล่อยให้การเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงความฝัน การผจญภัยในดินแดนจีนที่ไม่เคยเห็นกำลังรอคุณอยู่ โลกที่ซ่อนเร้นใบนี้พร้อมแล้วที่จะให้คุณได้ไปค้นพบด้วยตัวเอง